ภัยร้ายวันสงกรานต์ สืบนครบาลรวบเดนคุก อาศัยความสนิทเหมือนลุง ลวงเด็กสาววัย 16 ปี ไปเล่นสาดน้ำ กลับพาไปมอมเหล้าแล้วข่มขืน

ภัยร้ายวันสงกรานต์ สืบนครบาลรวบเดนคุก อาศัยความสนิทเหมือนลุง ลวงเด็กสาววัย 16 ปี ไปเล่นสาดน้ำ กลับพาไปมอมเหล้าแล้วข่มขืน

View icon 4.5K
วันที่ 14 เม.ย. 2567 | 08.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รวมทั้ง พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสมภพ ขันเพ็ชร์ หรือ อาร์ม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.268/2566 ลงวันที่ 11 ก.ค. 66 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย เพื่อการอนาจาร”

สืบเนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชนหญิงอายุ 16 ปี ได้โทรศัพท์หาแม่ โดยเสียงปลายสายบอกว่า “มันจะปล้ำหนู” ก่อนโทรศัพท์จะถูกตัดสายไปในกลางดึกของคืนวันสงกรานต์ปี 2566 ที่ผ่านมา หลังวางสายผู้เป็นแม่ตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์ไปยังหอพักของลูกสาวทันที เมื่อไปถึงก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกสาวว่า “ออกไป ช่วยหนูด้วย” จึงพังประตูเข้าไป ก็เห็นคนร้ายกำลังเอาอวัยวะเพศกระแทกประตูห้องน้ำที่ลูกสาวเข้าไปแอบอยู่ แล้วครางชื่อลูกสาวอย่างโรคจิต ก่อนตัดสินใจผลักคนร้ายกระเด็นออกไปให้พ้นทาง แล้วพังประตูห้องน้ำเข้าไป โดยลูกสาวขดตัวอยู่ข้างชักโครกร้องไห้ เนื้อตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ส่วนคนร้ายได้หลบหนี

จากการสอบถามลูกสาว บอกว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 66 เวลาหัวค่ำ ขณะที่ลูกสาวมาอาศัยอยู่กับญาติที่หอพักย่านหนองแขม เพื่อจะได้มาเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ แต่ปรากฏว่านายอาร์ม คนที่ลูกสาวนับถือและสนิทสนมราวกับลุงแท้ๆ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนรักของพ่อมาตั้งแต่จำความได้ ได้ส่งข้อความทางเฟซบุ๊กมาชักชวน ทำทีล่อหลอกว่าจะพาไปเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งส่งข้อความว่า “อยากไปเล่นน้ำกับลุงไหม เดี๋ยวลุงไปรับ” ด้วยความเชื่อใจ จึงหลงกลยอมให้มารับ แต่เมื่อขับรถออกไป แทนที่จะมุ่งหน้าไปบริเวณที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ นายอาร์มกลับวนรถพาไปหน้าบ้านตัวเองย่านบางบอน โดยอ้างว่า ลุงขอกินเบียร์สักกพัก แล้วลุงจะพาไปเล่นน้ำ

ต่อมานายอาร์มเริ่มมอมเหล้าจนเมาไม่รู้สึกตัว แล้วอุ้มขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน ลงมือข่มขืน เมื่อรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แม่จึงพาลูกสาวเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายอาร์ม กระทั่งนำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับดังกล่าว โดยคนร้ายเป็นอดีตนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่ช่ำชองวิธีการการหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เป็นอย่างดี จึงสามารถหลบหนีการติดตามของชุดสืบสวนได้เรื่อยมา

กระทั่งวันที่ 13 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่สืบนครบาล สืบทราบว่าคนร้ายไปกบดานอยู่ในบ้านพักในตัวเมือง จ.เพชรบุรี จึงนำกำลังบุกไปที่บ้านหลังดังกล่าว โดยเมื่อชุดสืบสวนไปถึงคนร้ายยังไม่ยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ทำการทุบกระจกประตู คนร้ายได้แง้มผ้าม่านมาดูก็รู้ชะตากรรมว่าหากไม่เปิดต้องถูกพังประตูแน่นอน จึงให้แฟนสาวเดินมาเปิดประตูแต่โดยดี และชุดสืบสวนก็สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด

สอบสวนในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การอ้างว่า ตนเองดั้งเดิมเป็นคนเติบโตมาในย่านบางบอน จบการศึกษาชั้น ปวช. เมื่อจบการศึกษาได้ประมาณ 1 ปี ได้เริ่มหันเข้าสู่วงการค้ายาเสพติด และได้ขายเรื่อยมา จนขณะที่อายุได้ 19 ปี เมื่อปี พ.ศ.2547 ได้ถูกจับกุมในคดีจำหน่ายยาเสพติด และวนเวียนอยู่ในวงการค้ายาเสพติด เข้า - ออกคุกเป็นประจำเหมือนบ้านหลังที่ 2 ยอมรับว่าเคยได้ร่วมกันกับพวกชาวไทยและชาวมาเลเซีย ที่รู้จักกันจากในคุก โดยจะไปรับยาเสพติดที่ลักลอบขนมาจากประเทศมาเลเซีย มาตระเวนขายในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่หลังจากพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2563 ได้หันมาประกอบอาชีพสุจริต ตั้งแต่ขายอาหาร และพนักงานขนส่งพัสดุ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเมื่อวันที่เกิดเหตุ ตนได้ไปรับน้องผู้เสียหายมาเพื่อจะพาไปเล่นน้ำสงกรานต์จริง แต่เนื่องจากก่อนหน้านั้นตนเองได้ดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าบ้านพักกับญาติ จึงได้พาน้องไปที่บ้านเพื่อจะดื่มเหล้าต่อ และได้พากันดื่มกินกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง เมื่อเห็นว่าน้องผู้เสียหายดื่มจนเมาไม่ได้สติแล้ว จึงบอกให้ขึ้นไปนอนก่อนที่ห้องพักของตนเอง ซึ่งเมื่อน้องผู้เสียหายได้ขึ้นไปนอนด้านบนห้องชั้น 2 แล้ว ยอมรับว่าตนเองก็ได้ เข้าไปนอนในห้องเดียวกันและนอนด้วยกันจริง แต่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เนื่องจากตนเองดื่มสุราและเสพยาเค จนเมาไม่ได้สติ และที่มากบดานอยู่ใน จ.เพชรบุรี เพราะรู้ตัวว่ามีหมายจับ โดยใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆไม่ออกไปไหน รับประทานอาหารจากร้านสะดวกซื้อ อยู่แต่ในบ้าน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป