ฉุนพ่อไม่ให้ยืมรถไปง้อเมียคว้าไม้ฟาดหัวสลบเหมือด

ฉุนพ่อไม่ให้ยืมรถไปง้อเมียคว้าไม้ฟาดหัวสลบเหมือด

View icon 368
วันที่ 17 เม.ย. 2567 | 19.40 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ลูกทรพี ฉุนพ่อไม่ให้ยืมรถจักรยานยนต์ไปง้อเมีย คว้าท่อนไม้ ฟาดหัวพ่อเลือดสาด สลบเหมือนคาที่ 

เมื่อเวลา 13.08 น. วันที่ 17 เมษายน 2567 ศูนย์กู้ชีพ อบต.อุ่มจาน อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ ลูกทำร้ายพ่อ ได้รับบาดเจ็บหมดสติ ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 14 บ้านอุ่มจาน ต.อุ่มจาน จึงไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบนายสมพงษ์ อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน ถูกตีด้วยของแข็งศีรษะแตก 2 แผล นอนหมดสติจมกองเลือดอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใคร เป็นลูกชายผู้บาดเจ็บ ชื่อนายอนุชา อายุ 25 ปี หลังก่อเหตุ ได้หลบหนีไปกับภรรยา โดยมีเพื่อนบ้านถ่ายคลิปวิดีโอไว้ได้ สอบถามน.ส.พรรณวษา อายุ 23 ปี ลูกสาวผู้บาดเจ็บ เล่าว่า พี่ชายคือนายอนุชา เคยแต่งงาน และแยกทางกับภรรยาคนแรก และมีภรรยาใหม่ได้ประมาณ 5-6 เดือน อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ ส่วนตนแต่งงานมีสามี มีลูก และทำงานอยู่กรุงเทพฯ กลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ ยังไม่ได้เดินทางกลับ ก็มาเกิดเหตุก่อน

โดยก่อนเกิดเหตุ พี่ชายทะเลาะกับเมีย ก่อนเมียจะหอบเสื้อผ้าหนี เดินออกจากบ้านไป ทำให้พี่ชายหงุดหงิด และขอยืมรถจักรยานยนต์ของพ่อ ขี่ไปส่งเมียกลับบ้านที่ อ.หนองหาน แต่พ่อไม่ให้รถคันใหม่ แต่ให้ขี่รถซาเล้งไปส่งแทน เพราะพ่อกลัวว่ารถคันใหม่จะพัง เพราะพ่อต้องคอยซ่อมมาตลอด ทำให้พี่ชายไม่พอใจ ได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์คันใหม่ของพ่อ และคว้าเอาถังน้ำ 20 ลิตรมาทุบรถพ่อ แม้พ่อจะร้องห้ามปราม จนเกิดการโต้เถียงกัน ทำให้พี่ชายไม่พอใจ คว้าเอาไม้เท้าของยายมาฟาดพ่อ ส่วนพ่อคว้าเอาท่อนไม้มาป้องกันตัว แต่ถูกพี่ชายเอาไม้เท้าฟาดศีรษะพ่อจนล้มลง ศีรษะแตก สลบนอนจมกองเลือด ตนเองช่วยพ่อไม่ได้ จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน และแจ้งกู้ชีพนำพ่อไปส่งโรงพยาบาล ส่วนลูกชายได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป

ด้าน พ.ต.อ.ศิริมงคล บุญหนุน ผกก.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า หลังได้รับแจ้งจากกู้ชีพ อบต.อุ่มจาน ตำรวจสายตรวจ และตำรวจชุมชนตำบลอุ่มจาน ได้ไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่กู้ชีพนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป ตำรวจจึงได้แนะนำญาติผู้บาดเจ็บว่า ให้ภรรยาหรือลูกผู้บาดเจ็บ ไปแจ้งความที่โรงพัก ตำรวจจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง