วันนี้ (18 เม.ย. 67) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บวศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สส. สภ.เขื่องใน พร้อม พ.ต.ท.นิรุตติ์ สีหานาม สว.สส. สภ.เขื่องใน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี นำตัวชายอายุ 42 ปี ชาว อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ไปทำแผนประกอบคำรรับสารภาพในข้อหาลักทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.เขื่องใน และ สภ.เมืองอุบลราชธานี ตั้งแต่เดือน ก.พ. 67 ถึงปัจจุบัน เกือบ 10 คดี
สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขื่องใน ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าชายคนดังกล่าวเป็นบุคคลพ้นโทษที่ออกมามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ทำการเฝ้าระวัง จนสายลับรายงานว่าเพิ่งรับยาเสพติดมาเสพ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณถนนข้างวัดบ้านท่าไห ทางด้านทิศตะวันตก พบกำลังอยู่กับรถแห่ จึงได้แสดงตัวตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 2 เม็ด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายบุญมีว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
จากการสืบสวนยังทราบอีกว่า ตั้งแต่พ้นโทษมาได้มีการตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.เขื่องใน เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 67 พื้นที่ ม.7 ต.ก่อเอ้ วันที่ 25 มี.ค. 67 พื้นที่ ม.6 ต.โนนรัง วันที่ 12 เม.ย. 67 พื้นที่ ม.2 ต.ก่อเอ้ วันที่ 14 เม.ย. 67 พื้นที่ ม.10 ต.ยางขี้นก อ.เขื่องใน และ วัดสว่างอารมณ์ อ.เมืองอุบลราชธานี ได้รถจักรยานยนต์ 1 คัน กล้องถ่ายรูป มูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท ทรัพย์สินที่ได้รวมเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มพร้อมกับนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
สำหรับผู้ต้องหา เคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์ตู้เซฟของ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2561 จนเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาแล้ว ศาลพิพากษาจำคุก 9 ปี แต่ติดจริง 3 ปี 6 เดือน ถูกพักโทษปล่อยออกมาข้องเกี่ยวกับคดียาเสพติดจนถูกจับเมื่อปี 2563 ก่อนจะถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2566 แล้วกลับมาตระเวนก่อเหตุตั้งแต่เดือน ก.พ. 67 จนถึงปัจจุบัน ทั้งที่ตนเองป่วยเป็นวัณโรค ตับอักเสบ และ HIV จากในเรือนจำ
เบื้องต้นนายบุญมีให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เงินที่ได้นำมาซื้อยาเสพติดเสพ เที่ยวผู้หญิง โทรเรียกสาวไซด์ไลน์มาร่วมหลับนอนด้วยประมาณ 14 คน โดยตนเองป่วยเป็นวัณโรค ตับอักเสบ และ HIV จริง ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะสวมถุงยางอนามัยตลอด แต่ระยะหลังที่ตระเวนไปก่อเหตุแล้วทำบัตรประชาชนหาย ตนก็ไม่ได้ไปรับยาต้านไวรัส และไม่กล้าไปทำบัตรใหม่ เพราะกลัวโดนจับ
