เปิดพฤติการณ์ บังตี๊บ คลุ้มคลั่ง ก่อนฆ่าอดีตภรรยา

View icon 164
วันที่ 19 เม.ย. 2567 | 07.27 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ยังคงติดตามกันอย่างต่อเนื่อง กรณีไอ้เหี้ยม ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงอดีตภรรยา จนเสียชีวิต บริเวณริมถนนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ก่อนจะหลบหนีไปซ่อนตัวในพื้นที่อื่น แถมก่อนก่อเหตุบุกไปทำลายข้าวของที่รังรักกับอดีตภรรยา จนเสียหายทั้งหมด

นี่เป็นนาที ชายอายุ 32 ปี หรือ บังตี๊บ บุกเข้าไปในหอพักแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องหนึ่ง เพียงเสี้ยวนาทีเขาเดินถอยหลังชนกำแพง แล้วยกเท้าถีบประตูหลายครั้ง แล้วเดินไปแกะกระจกบานเกร็ดหน้าประตูออก เพื่อที่จะล้วงมือเข้าไปปลดล็อก ปรากฏว่าประตูถูกล็อกจากด้านนอก เขาจึงเดินถอยหลังและถีบประตูเต็มแรงอีกครั้ง จนประตูเปิด จากนั้นเขารีบสาวเท้าเข้าไปรื้อและทำลายข้าวของในห้องจนกระจัดกระจายเสียหายทั้งหมด จากนั้นมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินตรงมาที่ห้อง พอเห็นว่าข้าวของในห้องถูกรื้อค้นทั้งหมด หญิงดังกล่าวจึงพยายามห้ามปรามและล็อกตัวชายที่ก่อเหตุออกจากห้องทันที จังหวะที่กำลังห้ามปรามอยู่ จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็สะบัดตัว เดินไปหยิบชั้นวางรองเท้าที่ตั้งอยู่หน้าห้อง เขวี้ยงไปกับพื้น

ขณะที่กล้องอีกมุมหนึ่ง ในลานจอดรถจักรยานยนต์ ผู้ก่อเหตุเดินไปเข็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของอดีตภรรยา แต่รถถูกล็อกคอไว้ เขาจึงออกแรงกระชากรถ แล้วหันหน้ารถออกไปทางประตู ก่อนจะพลักรถโดนเสาหอพักอย่างแรง จากนั้นเขาเดินไปถีบหน้ารถ 1 ครั้ง แล้วเดินฉุนเฉียวออกไปทันที ท่ามกลางสายตาของเพื่อน และเพื่อนบ้านที่ลงมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน เวลา 07.30 น.

ชายอายุ 22 ปี คนดูแลหอพัก เล่าว่า ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ เจ้าของหอพักโทรศัพท์มาสั่งให้ลงไปดูบริเวณชั้น 1 เพราะได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีคนทะเลาะกัน ด้วยความตกใจ ตนเองจึงรีบวิ่งลงไปดู ปรากฏว่าสภาพห้องเละมาก ดีที่ตอนนั้นภรรยาเขาไม่อยู่ที่ห้องด้วย เพราะก่อนหน้านี้ตนเองก็ทราบว่าภรรยาจับได้ ว่าตัวผู้ก่อเหตุพาผู้หญิงมานอน มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ทะเลาะกันอย่างรุนแรง และผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาจนศีรษะแตก เย็บ 4 เข็ม จากนั้น คนดูแลหอพัก บอกว่า ก็ไม่เห็นทั้ง 2 คนอีกเลย

สำหรับสามีภรรยาคู่นี้ มาเช่าหอพักที่นี่อยู่ได้ประมาณ 1 ปี โดยสามีและภรรยาจะอยู่ชั้น 1 ส่วนลูก ๆ จะอาศัยอยู่ชั้น 3 โดยทุก ๆ วัน สามีภรรยาคู่นี้ออกไปทำงานตามปกติ ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเลยสักครั้ง กระทั่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เห็นภรรยาเขานั่งกอดเข่าร้องห่มร้องไห้ทุกวัน

ทั้งนี้ญาติฝ่ายหญิงเดินทางมาที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รับศพไปประกอบพิธีตามศาสนาอิสลาม ย่านบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร แต่จังหวะที่กำลังติดต่อขอรับศพ จู่ ๆ แม่ผู้เสียชีวิตเป็นลมล้มทั้งยืน ดีที่ญาติที่อยู่ใกล้กัน ช่วยกันประคองไปนั่งที่เก้าอี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง