รับจ้างเปิดบัญชี สุดท้ายโดนคดีอ่วม แก๊งหลอกลงทุนเอาไปใช้รับเงินเหยื่อกว่า 10 ล้านบาท

รับจ้างเปิดบัญชี สุดท้ายโดนคดีอ่วม แก๊งหลอกลงทุนเอาไปใช้รับเงินเหยื่อกว่า 10 ล้านบาท

View icon 112
วันที่ 19 เม.ย. 2567 | 09.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจกองปราบปราม ตามรวบสองผัวเมียรับจ้างเปิดบัญชีม้า ให้แก๊งหลอกลงทุนเอาไปใช้หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 10 ล้าน เจ้าตัวสารภาพได้ค่าจ้าง 1,000 บาท สุดท้ายโดนหมายจับเพียบ

รับจ้างเปิดบัญชี ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5บก.ป. พร้อมด้วยตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้า 2 ราย โดยจับกุมได้ที่ริมถนน ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย
1. นายเอกฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลอาญาธนบุรี กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
2. นางสาวจิรนันท์ฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลอาญาธนบุรี กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”

สืบเนื่องจากคนร้ายได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กซึ่งสร้างโพรไฟล์น่าเชื่อถือ และชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุนโดยอ้างว่าเป็นการลงทุนเพื่อกำไรจากการซื้อขายเงินคริปโทเคอเรนซี ผ่านเว็บไซต์ชื่อ Goldcoin ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงเริ่มโอนเงินเริ่มลงทุนครั้งแรกเป็นเงิน 10,000 บาท โดยคนร้ายได้สร้างบัญชีปลอมผ่านหน้าเว็บไซต์ดังกล่าวให้ผู้เสียหายสามารถตรวจสอบผลการลงทุนของตนเองได้ โดยวันแรกผู้เสียหายได้กำไรและสามารถสั่งถอนเงินบางส่วนออกมาได้ จึงหลงเชื่อลงทุนเพิ่มรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยการโอนเงินเข้าบัญชีของสองสามีภรรยาคู่นี้  ต่อมาเมื่อต้องการถอนเงินออกจากระบบกลับไม่สามารถทำรายการได้ เมื่อทวงถามคนร้ายกลับบ่ายเบี่ยงและหลอกให้โอนเงินเพิ่ม ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายในคดีนี้ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหา 2 รายนี้ พร้อมพวกรวม 9 ราย

ต่อมาตำรวจได้สืบสวนทราบว่า นายเอกฯ และนางสาวจิรนันท์ฯ ได้หลบหนีการจับกุมมาอาศัยอยู่พื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต จึงวางแผนเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายไว้ได้ โดยสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าประมาณปลายปี พ.ศ. 2566 ทั้งคู่เคยได้รับจ้างเปิดบัญชีให้กับผู้หญิงไม่ทราบชื่อ พร้อมทั้งสมัครแอปพลิเคชันของธนาคารในโทรศัพท์ที่ผู้หญิงคนดังกล่าวเตรียมมาให้ โดยได้รับค่าจ้างบัญชีละ 1,000 บาท โดยไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวได้นำบัญชีไปใช้ในเรื่องใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า นายเอกฯ มีหมายจับของ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 24 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” ขณะที่นางสาวจิรนันท์ฯ มีหมายจับของ ศาลอาญามีนบุรี ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” โดยหลังจากนี้จะประสานอายัดตัวต่อไป