วันนี้ (21 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำคืนวันที่ 20 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.โคกก่อ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุที่บ้านภูดิน หมู่ 15 ต.โคกก่อ อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม จากนั้นได้แจ้งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนหว่าน และแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาสารคาม ให้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณกลางบ้าน เป็นหญิงอายุ 45 ปี นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีดำ โดยญาติได้นำผ้าห่มสีชมพูมาคลุมร่างไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือรื้อค้นข้าวของภายในบ้าน
สอบถามญาติของผู้เสียชีวิต บอกว่า ปกติผู้เสียชีวิตจะเดินเข้ามาในหมู่บ้านช่วงเวลาประมาณ 7 โมงเช้าของทุกวัน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านของญาติ ๆ กัน ไม่มีคนอยู่ และในเวลา 15.00 น. จะเดินกลับที่พัก แต่จะมานั่งพักเหนื่อยที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ โดยผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว คือ โรคตับแข็ง เป็นมานานหลายปีแล้ว หมอบอกให้เลิกดื่มเหล้า แต่ก็เลิกไม่ได้ เพราะถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มเหล้า ก็จะมีอาการมือสั่น
ขณะเดียวกันวันนี้อากาศร้อนมาก ตอนกลางวันอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส คาดว่าผู้เสียชีวิตจะมีอาการฮีทสโตรก ประกอบกับดื่มสุราร่วมด้วย อีกทั้งบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ ทำให้เมื่ออาการกำเริบไม่มีคนเห็น พอมาพบอีกทีในช่วงเย็นก็เสียชีวิตแล้ว ซึ่งญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และจะได้ทำพิธีฌาปนกิจศพต่อไป
ด้าน ดร.นพ.พิทักษ์พงศ์ พายุหะ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ออกแจ้งเตือน ซึ่งปัจจุบันมีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวมาก โดยเฉพาะช่วงกลางวัน บางแห่งอุณหภูมิสูงเกิน 40 หรือ 42 องศาเซลเซียส บางพื้นที่ อาจส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วย เนื่องจากความร้อนทำให้หลอดเลือดขยายตัว จะมีผลต่อการหมุนเวียนของเลือดในร่างกาย เกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนังและต่อมเหงื่อมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
สำหรับเครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มในช่วงที่ร้อนอบอ้าว คือ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ สาโท อุ กระแช่ น้ำตาลเมา เพราะจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานต้องหนักเพื่อสูบฉีดเลือด อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ ยิ่งหากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจ ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปอีก อาจเกิดเส้นเลือดแตกเสียชีวิตได้