สนามข่าว 7 สี - โต้เดือดสนั่นโรงพักที่ จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างลูกค้า กับเจ้าของร้านซ่อมรถ เปลี่ยนยางล้อ และแม็ก ทั้ง 4 ล้อ รถเสร็จขับออกจากร้านไปได้ไม่ไกล ล้อหลุด เกือบเกิดอุบัติเหตุ ทีแรก ๆ สองฝ่ายเจรจาเหมือนจะเคลียร์กันได้ แต่ไป ๆ มา ๆ ท้ากันไปจบที่โรงพัก
เรื่องนี้เป็นที่วิจารณ์อย่างมากในเฟซบุ๊ก หลังมีคนหนึ่งโพสต์ภาพรถกระบะ สีดำ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ มีสภาพล้อด้านหน้าข้างซ้าย ได้รับความเสียหาย ระบุข้อความว่า "งง ร้านยางแห่งหนึ่งใน อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ลูกค้าไปเปลี่ยนล้อ แต่ลืมขันน็อตล้อให้ลูกค้า ขับออกจากร้านล้อหลุด ล้อดันซุ้มล้อพัง แต่ร้านท้าให้ไปแจ้งตำรวจ ฟ้องศาลเอา ร้านแบบนี้อนาคตไกลแน่นอน" โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น ส่วนมากรุมด่าร้านซ่อมรถร้านนี้กันยกใหญ่
เรื่องเกิดมาหลายวันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้ เมื่อวาน นายอลงกรณ์ อายุ 34 ปี ชาวบ้านตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ เจ้าของรถกระบะ จึงต้องพึ่งตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดี เจ้าของร้านซ่อมรถดังกล่าว ตั้งอยู่ริมถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย หลังนำรถไปเปลี่ยนยางล้อและแม็ก 4 ล้อ พอเสร็จขับรถออกจากร้านมาได้ประมาณ 2 กิโลเมตร ปรากฏล้อด้านหน้าข้างซ้าย 1 ล้อ หลุด ลักษณแบะออก แต่ล้อคายังอยู่กับซุ้มล้อ แล้วแรงดันส่งผลให้ตัวถัง บริเวณแก้มซ้ายของซุ้มล้อเกิดรอยยุบ ทันทีที่เกิดเหตุโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าของร้านให้มาดู ก็พบว่าต้นเหตุจากช่างลืมขันน็อต ทีแรกตกลงเปลี่ยนล้อเดิมใส่ให้แล้วคืนเงิน ส่วนตรงจุดไหนพังก็จะซ่อมให้
พอถึงวันที่ 20 เมษายน นายอลงกรณ์ โทรศัพท์ไปนัดซ่อมรถ แต่เจ้าของร้านกลับลำ ไม่ซ่อมให้แล้ว แถมยังท้าให้ไปฟ้องศาลอีกด้วย โดยเมื่อวานเจ้าของรถอยู่บนโรงพัก ระหว่างนั่งรอพบร้อยเวร ปรากฏหญิงเจ้าของร้านซ่อมรถ คู่กรณี เดินขึ้นมาบนโรงพัก ทำให้ทั้งคู่ประจัญหน้ากัน โดยเจ้าของรถกระบะ ก็ยืนยันว่าร้านเป็นต้นเหตุทำรถของตนเองพังเสียหาย
ส่วนหญิงเจ้าของร้าน อายุ 56 ปี ก็พยายามอธิบายยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกน้องขันน็อตไม่แน่น แต่เธอ มองว่า ล้อก็เป็นส่วนของล้อ ไม่เกี่ยวกับซุ้มล้อรถที่มีรอยยุบ ตรงจุดนี้ไม่เกี่ยวกันจะให้ตนรับผิดชอบซ่อมตรงจุดนี้ได้อย่างไร
หลังการเจรจากันนานกว่า 1 ชั่วโมง สุดท้ายเจ้าของร้าน ยอมรับผิดชอบซ่อมรถที่มีรอยยุบให้ แต่ก็มีข้อแม้อยู่ว่า เจ้าของรถจะต้องลบโพสต์ให้หมดไปจากโซเชียล เพราะทำให้ร้านเสียหาย เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้วก็ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน