ลุงตาบอด ถูกตัดน้ำตัดไฟ แค้นใจแจ้งความจับ อดีตนักปั้นดาราคนดัง แอบนำภาพไปเปิดรับบริจาค โดยไม่ได้รับอนุญาต และเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ลั่น ขอดำเนินทุกข้อหา ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก
วันที่ 23 เม.ย.67 เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.วิมลศิริ มีสมสังข์ อสม.ตลาดขวัญ พร้อมด้วยนายนนทรานุวัตร พรมจันทร์ ประธานคณะติดตามงานจังหวัดนนทบุรี และลุงกุ้ง อายุ 65 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับอดีตนักปั้นดาราคนดัง หลังลุงกุ้ง ถูกอดีตนักปั้นดาราคนดังนำภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ที่น่ารันทดของลุงกุ้งไปเปิดรับบริจาคขอความช่วยเหลือเป็นสิ่งของและเงินเข้าบัญชีส่วนตัว
โดยลุงกุ้ง กล่าวว่า ตนเองเพิ่งมาทราบข่าวเมื่อวานนี้ว่า อดีตนักปั้นดาราคนดัง เอารูปตนกับสุนัขของตนไปเปิดขอรับบริจาคความช่วยเหลือ โดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องมาก่อน ไม่เคยอนุญาตให้ไปเปิดรับบริจาค และไม่เคยติดต่อ พูดคุยอะไรกับอดีตนักปั้นดาราคนดังมาก่อนเลย พอตนเองทราบข่าวก็เกิดความไม่สบายใจ และทำให้ตนเกิดความเข้าใจผิดกับเจ้าหน้าที่ อสม.ที่คอยดูแลตนอยู่ ว่าตนเองแอบไปเปิดบัญชีรับบริจาค โดยไม่แจ้งให้เขาทราบ ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ อสม.และหน่วยงานต่าง ๆ ก็ดูแลตนเป็นอย่างดีแล้ว ทำให้ตนต้องมาปรับความเข้าใจกับทางเจ้าหน้าที่ อสม.ใหม่ ว่าตนไม่รู้เรื่อง ไม่เคยอนุญาตให้ใครไปเปิดเพจหรือเปิดบัญชีรับบริจาคให้
ลุงกุ้ง กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเจ็บปวดมาที่ถูกอดีตนักปั้นดาราคนดังมาทำแบบนี้ เพราะต้องไม่ได้เรียกร้อง หรือ ร้องขอความช่วยเหลือใดๆแล้ว เพราะหลังตกเป็นข่าวไปก็มีหน่วยงานลงพื้นที่มาดูแลให้ความช่วยเหลือตนเองจนเพียงพอแล้ว ตนไม่สบายใจที่อดีตนักปั้นดาราคนดังมาทำแบบนี้กับตน ตนจะดำเนินคดีความผิดที่เกิดขึ้นต่อไป เพราะเขาแอบอ้างในข้อความว่าจะเอาสิ่งของต่าง ๆ ทั้งของกินของใช้ จะปูเสื้อน้ำมัน จะติดตั้งไฟฟ้าจะโซลาร์เซลให้กับตน ทั้ง ๆ ที่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ตนต้องการเลย ไม่เคยร้องขอ ตนไม่ใช่คนแบบนั้น การมาทำแบบนี้กับตนก็เหมือนกับเอาตนเอาชีวิตตนไปขายไปหากิน ทั้ง ๆ ที่ตนก็พิการทางสายตาอยู่แล้ว คุณทำแบบนี้กับผมไดยังไง
ลุงกุ้ง ยังกล่าวอีกว่า จากเรื่องที่ตนถูกนำชื่อนำรูปไปขอรับบริจาค ทำให้เมื่อเช้านี้ขณะที่ตนเดินออกไปซื้อของในซอย ตนถูกคนขับรถเก๋งเข้ามาจอดข้าง ๆ ตัว ก่อนจะลดกระจกลงมาหัวเราะเหยียดหยามใส่ เหมือนถูกดูถูก และตนยังเกรงอีกว่า หากลูกชายของตนทรายเรืองแล้วจะทำให้เกิดมีปัญหากันชึ้นมาอีก เพราะตนกับลูกชายก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันอยู่แล้ว หากเขาเข้าใจผิดคิดว่าตนไปเปิดขอรับบริจาคมา ตนก็คงถูกลูกชายมองในทางที่ผิดอีกว่าพ่อไปทำไปก่อเรื่องอะไรมาอีก ทั้ง ๆ ที่ตนไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย ตนขอยืนยันไว้ตรงนี้เลยว่า ตนไม่เคยไปขอหรืออนุญาตให้ใครเอาชื่อตนรูปตนหรือชีวิตตนไปเปิดเพจรับบริจาคใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือเงินก็ตาม หากมีคนนำไปแอบอ้างแสดงว่ากำลังถูกหลอกอยู่
ทางด้าน น.ส.วิมลศิริ มีสมสังข์ เจ้าหน้าที่ อสม.ตลาดขวัญ ซึ่งเป็นผู้ดูแลลุงกุ้ง กล่าวว่า วันนี้ตนเองเดินทางพาลุงกุ้งมาเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักก่อน เนื่องจากถูกอดีตนักปั้นดาราคนดัง นำรูปภาพและเรื่องราวของลุงกุ้งไปเปิดเพจขอเปิดรับบริจาคให้กับลุงกุ้ง โดยที่ลุงกุ้งไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งเป็นการเปิดรับบริจาคในนามส่วนตัวของเขาเอง ทั้ง ๆ ที่ลุงกุ้งไม่ต้องการขอรับบริจาคใดๆเพิ่มเติมแล้ว แต่จู่ ๆ กลับนำปนำเรื่องราวของลุงไปเปิดเพจเปิดรับบริจาคขอความช่วยเหลือว่าลุงกุ้ง ต้องการความช่วยเหลืออย่างนั้นอย่างนี้
ภายหลังจากเข้าแจ้งความแล้วทางพรักงานสอบสวน จะได้เตรียมออกหมายเรียกตัวอดีตนักปั้นดาราคนดัง มาเข้าให้ปากคำสอบสวนต่อไป
