สุดช้ำ นักธุรกิจสาว ไปเลเซอร์ขนน้องสาว ที่คลินิกดังย่านรังสิต พบ "จิมิ" ไหม้ เป็นแผลติดเชื้อ คลินิกปัดรับผิดชอบ

สุดช้ำ นักธุรกิจสาว ไปเลเซอร์ขนน้องสาว ที่คลินิกดังย่านรังสิต พบ "จิมิ" ไหม้ เป็นแผลติดเชื้อ คลินิกปัดรับผิดชอบ

View icon 146
วันที่ 23 เม.ย. 2567 | 18.01 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
นักธุรกิจสาว ร้องสายไหมต้องรอด คลินิกดังย่านรังสิต ทำ "จิมิ" ไหม้เป็นแผลติดเชื้อ หลังไปเลเซอร์ขน

วันนี้ (23 เม.ย. 67) นักธุรกิจสาว อายุ 36 ปี  ชาวรังสิต ปทุมธานี  เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อ นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังเลเซอร์ขนที่คลินิกเสริมความงามชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรังสิต ปทุมธานี แต่มีอาการปวดแสบปวดร้อนที่อวัยวะเพศมาก หลังจากนั่นแผลเริ่มพุพอง มีอาการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น จนแพทย์ที่รักษาต้องสั่งนอนโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 3 คืน

ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักคลินิกแห่งนี้ทางเฟซบุ๊ก จึงทักไปพูดคุยและนัดวันเข้าไปยิงเลเซอร์ขนเพชร ในวันที่ 18 มี.ค. 67 เวลา 16.00 น. โดยคิดราคา 2,000 บาท/ครั้ง ซึ่งขณะที่ทำการยิงเลเซอร์คนที่ทำการยิงเลเซอร์ให้แต่งตัวเหมือนพนักงานทั่วไปไม่ได้ใส่ชุดแพทย์  และหลังยิงเลเซอร์เสร็จ ตนรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากทั่วอวัยวะเพศ จึงได้ปรึกษากับทางคลินิก ตอนนั้นคลินิกแจ้งเป็นอาการปกติ เดี๋ยวจะหายไปเอง ตนจึงกินยาลดไข้ ยาแก้ปวด แล้วนอนพัก

รุ่งขึ้นหลังจากอาบน้ำรู้สึกปวดแสบที่อวัยวะเพศมาก จึงได้ก้มมองดูเห็นเป็นตุ่มน้ำใส่ๆ พองรอบๆ อวัยวะเพศ พออาบน้ำเสร็จเอาผ้าเช็ดตัวเช็ด พบว่าผิวหนังที่อวัยวะเพศเปื่อยยุ่ยหลุดติดออกมากับผ้าเช็ดตัว และมีอาการแสบมาก พร้อมกับมีไข้ จึงโทรกลับไปแจ้งทางคลินิกอีกครั้งถึงอาการที่เกิดขึ้น

จากนั้นตนได้ไปซื้อยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านมากินและทา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล พบว่าแผลจากการยิงเลเซอร์มีอาการติดเชื้อรุนแรง แพทย์จึงให้แอดมิดเพื่อดูอาการเนื่องจากอยู่ใกล้ช่องคลอด และประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2 - 3 หมื่นบาท ตนจึงติดต่อกลับไปที่คลินิกอีกครั้งเพื่อแจ้งค่าใช้จ่ายในการรักษา โดยขอให้ทางคลินิกช่วยค่ารักษา 20,000 บาท ส่วนที่เหลือตนจะเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด 

แต่ทางคลินิกได้แจ้งว่าให้ตนทำการรักษาได้เลย คลินิกจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเอง ตอนนั้นตนรู้สึกสบายใจและชื่นชมในความรับผิดชอบของทางคลินิกมาก ระหว่างนอนรักษาตัวตนได้อัพเดทอาการให้ทางคลินิกทราบทุกวัน หลังจากตนนอนให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 3 วัน อาการเริ่มดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยมีค่ารักษาอยู่ที่ 42,642 บาท ตนจึงสำรองจ่ายไปก่อนและส่งใบเสร็จให้กับทางคลินิกเพื่อเบิกเงินคืนตามที่คลินิกแจ้งไว้  แต่พอหลังจากส่งใบเสร็จไปเหตุการณ์กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

ทางคลินิกปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างแต่เพียงว่าไม่มีความจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล อีกทั้งอาการบาดเจ็บ อาการติดเชื้อก็ไม่เกี่ยวกับทางคลินิก  คลินิกขอคืนเงินค่ายิงเลเซอร์ 2,000 บาท แล้วจบกันไป  ตนเห็นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องคลินิกปัดความรับผิดชอบ  

เรื่องนี้ตนไม่ได้เรียกร้องเงินค่าทำขวัญที่ทำให้ตนเจ็บตัวต้องมานอนโรงพยาบาลเลยแม้แต่บาทเดียว  เงินจำนวน 42,642 บาท เป็นเงินค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายจริงทั้งสิ้น ตนจึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมจากเพจสายไหมต้องรอด เพื่อไม่ให้คลินิกไปทำแบบนี้กับคนอื่น ๆ อีก

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นจะประสานไปยัง  กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ตามข้อร้องเรียนดังกล่าวต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง