เปิดวงจรปิดนาที นศ.หนุ่มปี 1 หนีตายถูก นศ.หญิงไล่แทงสาหัส

View icon 36
วันที่ 26 เม.ย. 2567 | 06.05 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - เปิดวงจรปิดนาทีนักศึกษาหนุ่มปี 1 หนีตายนักศึกษาหญิงไล่แทงในหอพัก หลังถูกบอกเลิก

วงจรปิดชั้น 3 ของหอพักแห่งหนึ่ง จังหวัดปทุมธานี บันทึกภาพนาทีนักศึกษาชาย อายุ 19 ปี เรียนอยู่ปี 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยชื่อดัง เอามือกุมคอที่อาบไปด้วยเลือด วิ่งหนีตายออกจากห้อง หลังถูกแฟนสาว อายุ 23 ปี รุ่นพี่ปี 3 อยู่คณะเดียวกัน ใช้มีดแทงคอ พยายามกระชากลากถูฝ่ายชายให้กลับเข้าห้อง โชคดีฝ่ายชายสะบัดหลุด ก่อนวิ่งไปขอความช่วยเหลือคนที่อยู่ข้างล่างของหอหัก เบื้องต้นพบอาการสาหัส นอกจากถูกแทงคอ ยังถูกแทงมือด้วย ส่วนแฟนสาวเดินกลับเข้าห้องเพื่อรอมอบตัวกับตำรวจ

เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง มีการเปิดโอเพ่นแช็ต พูดคุยสอบถามกันว่า "นักศึกษาปี 3 ที่ปาดคอแฟนจนเข้าไอซียู แล้วยังมาเรียนตามปกติอยู่คณะไหน หรือบอกตามตรงว่ากลัว รู้สึกไม่ปลอดภัย ที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนเพิ่งก่อเหตุแบบนี้มา" จากนั้นเรื่องนี้ก็ติดเทรนด์อันดับ 1 ของ X หรือ ทวิตเตอร์

ทำให้ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้เตรียมประสานงานฝ่ายวินัยนักศึกษา เพื่อสืบข้อเท็จจริง และสอบสวนให้เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยว่าด้วยวินัยนักศึกษา และดำเนินการตามวินัยนักศึกษาต่อไป ขณะที่อาการผู้บาดเจ็บตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ยังอยู่ในห้องไอซียู และไม่รู้สึกตัว

ด้านคดี พ.ต.อ.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ในฐานะรักษาราชการแทน ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ชนวนเหตุเกิดจากฝ่ายชายต้องการเลิกกับฝ่ายหญิง จึงนำคีย์การ์ดมาคืนและบอกเลิก แต่ฝ่ายหญิงต้องการง้อขอคืนดี พอไม่สำเร็จ จึงนำมีดปอกผลไม้มาก่อเหตุ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ก่อนที่พ่อแม่ผู้ก่อเหตุจะนำเงินสด 100,000 บาท มาประกันตัวออกไป จากนี้ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ และรอผลชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ ก่อนแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

ล่าสุด เพจอีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ภาพแช็ตระหว่างนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุกับพี่ที่สนิท เล่าสาเหตุทำร้ายแฟนหนุ่ม เพราะจับได้ว่า แอบนอกใจไปมีคนอื่น จึงเกิดอาการโมโห บันดาลโทสะคว้ามีดทำร้ายลงมือทำร้าย ไม่ใช่พยายามง้องอนขอคืนดีแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง