สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เพราะโรคประจำตัว หรือเพราะอากาศร้อน เล่นเอายายเป็นลม ล้มทับหลานชาย อายุ 3 เดือน ล่าสุด ทั้งคู่อาการปลอดภัย
ยายหน้ามืด ล้มทับหลานอายุ 3 เดือน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.30 น. ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าของคลิป คือ คุณแป้ง เล่าว่า แม่อายุ 54 ปี ก้มลงเสียบสายชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ แล้วเงยหน้าขึ้นมา ยังพูดคุย หัวเราะกันตามปกติ โดยมีหลานชาย อายุ 3 เดือน นอนอยู่บนเปลด้านหลัง
แต่จู่ ๆ ไม่รู้อะไรเป็นเหตุ ทำแม่หน้ามืด ล้มลง สลบทับหลานตัวเองที่นอนอยู่ คุณแป้งตกใจ รีบเรียกแม่ให้ตื่น ผ่านไป 10 วินาที แม่ฟื้นขึ้นมา แต่จำไม่ได้ว่าหน้ามืดล้มลง ส่วนลูกชายคุณแป้ง ได้ช่วยออกมาก่อนแล้ว โชคดีที่ทั้งคู่ไม่เป็นอะไรมาก
ต้นเหตุเรื่องนี้ ไม่รู้เพราะโรคประจำตัวแม่ คือ ไขมันสูง, ความดันสูง หรือ อากาศร้อนเป็นเหตุ เนื่องจากก่อนแม่หน้ามืด เพิ่งปิดแอร์ไปได้ไม่นาน
อากาศร้อนจัด คุณตาอายุ 95 ปี ช็อกเสียชีวิตคาที่นอน
แต่เรื่องนี้ น่าจะร้อนเป็นเหตุ จนเกิดเหตุสลด ชายชรา อายุ 95 ปี จังหวัดชัยภูมิ ช็อกเสียชีวิตคาที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแท่น พร้อมทีมแพทย์เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือถูกทำร้าย หลานสาวบอกว่า ตามีโรคประจำตัวหลายโรค คืนเกิดเหตุ บ่นว่าร้อน อยู่บ้านไม่ไหว เลยหลบร้อน ออกไปนอนที่กระท่อมปลายนา หวังจะพึ่งลมเย็นจากธรรมชาติ แต่ปรากฏว่า มาเจอตอนเช้า เสียชีวิตแล้ว
คาดว่า อากาศร้อน คงกระตุ้นโรคประจำตัวกำเริบ จนช็อกเสียชีวิต โดยทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จากสถิติพบว่า ในจังหวัดชัยภูมิ แค่ช่วงสัปดาห์เดียว พบมีกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเสียชีวิตจากอากาศร้อนจัดรวม 4 คนแล้ว
ทนอากาศร้อนไม่ไหว เปลือกทุเรียนปริแตก
ส่วนเรื่องนี้ ก็ความร้อนเป็นเหตุ ทำเอาเจ้าของร้านขายทุเรียนถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าทุเรียนหมอนทองที่ไปขนมาจากจังหวัดจันทบุรี ปริมาณหลายตัน เป็นร้อย ๆ ลูก บางลูกจะทนพิษอากาศร้อนจัดไม่ไหว ปริแตก มองเห็นเนื้อใน แต่พอมาถึงปลายทางจังหวัดกำแพงเพชร สภาพนี้จะขายเอากำไรก็คงยาก เจ้าของร้านยอมลดราคา ลูกเล็ก ๆ เหลือกิโลกรัมละ 100 บาท ลูกค้ารุมซื้อเพียบ เพราะรสชาติอร่อย เนื้อไม่เละ และไม่ได้เน่าเสีย
เจ้าของร้าน เล่าว่า คงจะเป็นเพราะอากาศร้อน จึงทำให้ทุเรียนที่แก่จัด พร้อมขาย ปริแตก นาทีนี้ขายเอากำไรคงยาก จึงตัดสินใจขายเอาทุนมาก่อน
อากาศร้อนจัด จนทุเรียนร่วงจากต้น
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา ร้อนทะลุ 40 องศาเซลเซียส และไม่มีฝนตกลงมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้แปลงปลูกทุเรียน ที่บ้านดงเย็น หมู่ที่ 6 ตำบลเสิงสาง อำเภอเสิงสาง ร้อนไม่ไหว ร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และแห้งแล้ง
เจ้าของสวนทุเรียน เล่าว่า ตนปลูกทุเรียน 5 ไร่ จำนวน 150 ต้น ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์หมอนทอง ทำมา 7 ปี แต่ปีนี้ ดูแลยากมาก บางต้นร่วงจนไม่เหลือแม้แต่ลูกเดียว พยายามสูบน้ำมาบรรเทาความร้อนให้ต้นทุเรียน แต่ก็ไม่ได้ผล หากสภาพอากาศยังเป็นเช่นนี้ คาดว่าผลผลิตคงลดลงแน่นอน
ลงน้ำคลายร้อน สู้อุณหภูมิทะลุ 40 องศาเซลเซียส
ที่จังหวัดมหาสารคาม ร้อนไม่น้อยหน้า ทะลุ 40 องศาเซลเซียส เช่นกัน ประชาชนหนีร้อนมาลงน้ำ ที่คลองชลประทานกันอย่างสนุกสนาน เด็ก ๆ ก่อนเปิดเทอม ซึ่งก็มีผู้ใหญ่เฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง หรือบางคนไม่ลงคลอง แต่ขอลงนา ไปหาปูตามทุ่งนา อาศัยดินโคลนเย็น ๆ คลุกให้เนื้อตัวฉ่ำ ๆ
สำหรับการลงเล่นน้ำตามพื้นที่สาธารณะ แพทย์เตือน หากน้ำเข้าตา โคลนเข้าตา เข้าปาก ต้องหาน้ำสะอาดล้างออก อย่าใช้น้ำในแหล่งน้ำที่เล่นอยู่เด็ดขาด เพื่อความสะอาด และความปลอดภัย
อากาศร้อน ห่วงลิงเครียด บุกบ้านประชาชน
มาที่กรุงเทพมหานคร ผู้ว่าฯ กทม. ห่วงอากาศร้อน ทำลิงแสมเครียด ป่วนชาวบ้าน ซึ่งมีอยู่ 3 จุดใหญ่ ได้แก่ ซอยเทียนทะเล 22, ซอยแสมดำ 17 และบริเวณอนุสาวรีย์คุณกะลา รวมแล้วกว่า 500 ตัว
ปกติแล้วลิงจะมีความซุกซน แต่ยิ่งเจออากาศร้อน อาจทำให้ลิงเครียด และก้าวร้าวกว่าเดิม ทาง กทม. ได้สำรวจแหล่งน้ำ และร่มไม้ พบว่ามีเพียงพอให้ลิงคลายร้อน แต่ต้องยอมรับว่า ยังมีลิงบางตัวซุกซน ไปหลบร้อนตามบ้านเรือนประชาชน จนสร้างความเดือดร้อน
ข้ามขั้นโลกร้อน สู่วิกฤตโลกเดือด
สภาพอากาศทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่า "ข้ามขั้นโลกร้อน สู่วิกฤตโลกเดือด" โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ป่าชายเลนจังหวัดสมุทรสาคร สำรวจต้นโกงกาง ไม่ให้ขาดน้ำยืนต้นตาย เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด
อีกทั้ง ยังร่วมกันจัดเก็บขยะพลาสติก เพื่อลดการเกิดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นต้นเหตุของก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อน สำหรับแผนจัดการขยะพลาสติกของไทย ภายในปี 2573 มีเป้าหมายลดและเลิกใช้พลาสติกด้วยการใช้วัสดุทดแทน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ 100% ภายในปี 2570 ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ให้ช่วยกัน
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Pang Thanyalak
