ตำรวจบุกจับผับดังย่านบางชันเปิดเกินเวลา ไม่มีใบอนุญาต ดัดแปลงจากร้านอาหาร พบนักเที่ยวเป็นชาวเมียนมาล้วน

ตำรวจบุกจับผับดังย่านบางชันเปิดเกินเวลา ไม่มีใบอนุญาต ดัดแปลงจากร้านอาหาร พบนักเที่ยวเป็นชาวเมียนมาล้วน

View icon 127
วันที่ 28 เม.ย. 2567 | 08.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจบุกจับผับดังย่านบางชันเปิดเกินเวลา ไม่มีใบอนุญาต ดัดแปลงจากร้านอาหาร พบนักเที่ยวเป็นชาวเมียนมาล้วน หลบหนีเข้าเมือง 16 คน ในจำนวนนี้อายุต่ำกว่า 20 ปี 6 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 27 เม.ย. 67 เวลา 02.45 น. ที่ผ่านมา กองบังคับสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ร่วมกับตำรวจ สน.บางชัน เข้าตรวจสอบผับชื่อดัง ภายใน ซ.รามคำแหง 100 ถ.รามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กทม. หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีร้านซึ่งเปิดเป็นสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และยินยอมหรือปล่อยปละให้มีผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าใช้บริการภายในร้าน และลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวเมียนมา โดยเปิดให้บริการเป็นร้านอาหาร แต่ดัดแปลงสภาพร้านและการให้บริการเป็นรูปแบบสถานบริการ และเปิดให้บริการโดยไม่ได้อนุญาตให้เปิดเป็นสถานบริการ

จากการตรวจสอบพบว่ามีร้านอาหารเปิดเป็นลักษณะผับ ซึ่งเปิดให้บริการเป็นสถานบริการจริง มีดีเจเปิดเพลงให้บริการแก่ลูกค้า แต่ไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของร้าน หรือผู้ดูแลร้าน พบแต่เพียงลูกค้าเป็นชาวเมียนมา รวมทั้งดีเจก็เป็นชาวเมียนมา กำลังนั่งดื่มกินกันภายในร้าน เมื่อขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินของลูกค้าทั้งหมด ปรากฏว่ามีลูกค้าจำนวน 16 คน ไม่มี เอกสารหนังสือเดินทาง โดยลูกค้าในจำนวนนี้มีลูกค้าที่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการภายในร้าน จำนวน 6 คน และนักท่องเที่ยวชาวเมียนมาอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 10 คน โดยแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

เบื้องต้นควบคุมตัวนักเที่ยวชาวเมียนมาทั้ง 16 คน ส่งพนักงานสอบสวน สน.บาชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนการดำเนินการกับร้านดังกล่าว ตรวจสอบพบว่าประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าใช้บริการ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และจากการเข้าตรวจสอบไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของร้านและผู้ดูแลร้าน เจ้าหน้าที่ตตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดเอกสารใบทะเบียนพาณิชย์และสัญญาเช่าอาคาร และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเสนอผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิกถอนใบอนุญาต หรือสั่งปิด และห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการดังกล่าวต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง