เช่าโรงเจวางเครื่องขุดบิทคอยน์ ลักใช้ไฟหลวง ตำรวจไซเบอร์บุกทลาย

เช่าโรงเจวางเครื่องขุดบิทคอยน์ ลักใช้ไฟหลวง ตำรวจไซเบอร์บุกทลาย

View icon 83
วันที่ 28 เม.ย. 2567 | 10.13 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เช่าโรงเจศาลเจ้าพ่อ ย่านบ้านแพ้ว วางเครื่องขุดบิทคอยน์ ลักใช้ไฟหลวง อีกจุดเป็นโกดังในเมืองราชบุรี ตำรวจไซเบอร์บุกทลาย พบลักใช้ไฟ ดัดแปลงมิเตอร์ นานกว่า 2 เดือน ยึดเครื่องขุด 652 เครื่อง มูลค่ากว่า 200 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์ พบมิจฉาชีพชักชวนซื้อขายเครื่องขุดบิทคอยน์ในราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาด และยังมีการรับฝากวางเครื่องขุดดังกล่าว โดยเก็บค่าดูแลและค่าไฟฟ้าต่ำกว่าความเป็นจริง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. โดย กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้ประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคใต้) จังหวัดเพชรบุรี จนพบข้อมูลว่า มีการซื้อขายเครื่องขุดบิทคอยน์ และรับฝากวางทำเป็นเหมืองขุดที่โรงเจของศาลเจ้าพ่อแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และยังพบสถานที่ที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้ามากอย่างผิดปกติ บริเวณโกดัง 2 อาคารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่เขาแก่นจันทร์ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งคาดว่าเป็นการทำเหมืองบิทคอยน์ด้วยเช่นกัน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นทั้ง 2 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 โรงเจของศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ตรวจพบเหมืองบิทคอยน์ โดยทำเป็นอาคารทึบ อยู่บริเวณโรงจอดรถของศาลเจ้าดังกล่าว มีนายสมบัติ (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นผู้ควบคุมดูแล จากการตรวจค้นพบ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์สำหรับขุดบิทคอยน์ประกอบกันในลักษณะเป็นเหมืองขุด จำนวน 187 เครื่อง และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ยังพบว่า มีการดัดแปลงบริเวณมิเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำให้กระแสไฟฟ้าผิดปกติ

จุดที่ 2 โกดัง บริเวณเขาแก่นจันทร์ อ.เมือง จ.ราชบุรี พบเหมืองบิทคอยน์ ทำเป็นอาคารทึบ มีนายสมหวัง (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นผู้ควบคุมดูแลเหมือง และมีนายนายเกียรติก้อง (ขอสงวนนามสกุล) ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลอาคารและเครื่องขุดดังกล่าว จากการตรวจค้น พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์สำหรับขุดบิทคอยน์ประกอบกันในลักษณะเป็นเหมืองขุด จำนวน 465 เครื่อง และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า พบว่ามีการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำให้กระแสไฟฟ้าผิดปกติ

รวมของกลางที่ตรวจยึด ได้แก่ เครื่องขุดบิทคอยน์ มูลค่าประมาณ 3.5 แสนบาท จำนวน 652 เครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท มิเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกดัดแปลง จำนวน 2 มิเตอร์

จากการสอบถามเบื้องต้น นายสมบัติ และนายสมหวัง ให้ข้อมูลว่า ได้เปิดเหมืองมาแล้วประมาณ 2 เดือน ได้ประกอบการขายเครื่องขุดบิทคอยน์ โดยได้นำเข้าเครื่องมาจากประเทศจีนโดยผ่านพิธีศุลกากรถูกต้อง และนำมาจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป หากลูกค้าที่ซื้อเครื่องขุดแล้ว ตนเองจะรับฝากเครื่อง โดยคิดค่ารับฝากรวมค่าไฟฟ้า เป็นเงิน 6,200 บาท เท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ปกติแล้วเครื่องขุดบิทคอย์ดังกล่าว หากเปิดขุดตลอดทั้งเดือน จะเสียค่าไฟฟ้าประมาณ 9,000 บาท ต่อ 1 เครื่อง จึงมีจุดสังเกตว่าในการรับฝากวางนั้น การคิดราคาค่าไฟฟ้าและค่าดูแลเพียง 6,200 บาท นั้นก็เพื่อจูงใจลูกค้า

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า พบว่ามีการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้กระแสไฟฟ้าผ่านมิเตอร์ไม่เต็มตามที่ใช้จริง และมีบางส่วนเป็นการต่อกระแสไฟฟ้าโดยไม่ผ่านมิเตอร์ เพื่อเป็นการลดต้นทุนสำหรับค่าไฟฟ้า โดยจากการคำนวณค่าไฟฟ้าที่รัฐเสียหายจากทั้ง 2 จุด พบว่ามีมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท

สำหรับคริปโทเคอเรนซี สกุลเงินดิจิทัล นั้น เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่มีการเข้ารหัส โดยใช้โค้ดคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่าผ่านอินเทอร์เน็ต มีราคากลางในการซื้อขายแปรผันตามกลไกตลาด ซึ่งในปัจจุบันได้เข้ามามีบทบาทจนเป็นกระแสสังคม และเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนหน้าใหม่ที่ต้องการเก็งกำไรในตลาด และยังเป็นหนึ่งในแผนประทุษกรรมที่มิจฉาชีพมักฉวยโอกาสหาช่องว่างในการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงชักชวนให้เข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจการขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัลสกุลต่างๆ 

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 จึงขอเตือนภัยไปยังนักขุดบิทคอยน์ที่เห็นว่าช่วงนี้ราคาคริปโทเคอเรนซีในตลาดมีราคาสูงขึ้นมาก ให้ระมัดระวังในการซื้อและการฝากวางเครื่องกับเหมืองต่าง ๆ อาจโดนจูงใจโดยการรับฝากในราคาที่น้อยกว่าปกติหรือไม่สมเหตุสมผลกับค่าไฟฟ้าที่แท้จริง สุดท้ายเหมืองอาจจะมีการลักไฟฟ้ามาเพื่อทำการขุดเหรียญ ซึ่งหากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ตรวจยึด ท่านอาจจะได้รับความเสียหายจากการฝากวางเครื่องได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง