โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 ตามคาด "ชลน่าน" หลุดเก้าอี้

View icon 76
วันที่ 29 เม.ย. 2567 | 06.41 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ปรับ ครม. ยังวุ่น ส่อเค้ามีความขัดแย้งภายในของพรรคเพื่อไทย หลังโปรดเกล้าฯ ครม. เศรษฐา 1/1 ได้ไม่ทันข้ามวัน ตอนนี้ต้องเตรียมปรับ ครม.1/2 ต่อ เพราะนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นใบลาออก เนื่องจากไม่พอใจหลังถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกฯ ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่อุตส่าห์เปลืองตัวฉีก MOU ก้าวไกล จนได้เสียงก่นด่า "ตระบัดสัตย์" จากอดีตแฟนคลับจำนวนมาก ก็หลุดจากเก้าอี้ตามคาด หลังนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เพียง 7 เดือน

โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 ตามคาด "ชลน่าน" หลุดเก้าอี้
เมื่อวานนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังนี้

รัฐมนตรีหน้าใหม่ 4 คน ได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นางสาวจิราพร สินธุไพร เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อดีตรัฐมนตรียุคลุงตู่ ที่ได้กลับมาอีกครั้ง นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สลับตำแหน่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จากรองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รองนายกรัฐมนตรี อีกตำแหน่งหนึ่ง, นายจักรพงษ์ แสงมณี จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งสลับกระทรวงกับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช จากกระทรวงวัฒนธรรม จะไปนั่งกระทรวงท่องเที่ยวฯ แทน

ยุบตำแหน่งเดิม เหลือตำแหน่งเดียว ได้แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน เลิกควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เหลือเพียงนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เดิมเป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหลือเพียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด หลุดจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายไชยา พรหมา หลุดจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ, นายอนุชา นาคาศัย หลุดจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หลุดจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

หลังปรับ ครม.ปกติจะเห็นแรงกระเพื่อมตามมา ที่ค่อนข้างชัดเจนในครั้งนี้ คงเป็น นายแพทย์ชลน่าน ซึ่งตั้งแต่มีกระแสว่าจะหลุด ได้เคยออกมาแสดงอาการน้อยใจ บอกว่า มีผลงานเกรด A+ แต่เหตุผลที่นายกรัฐมนตรีคาดโทษ น่าจะมาจากเอาข้าราชการไม่อยู่ แต่ตนไม่ติดใจ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะช่วงตั้งรัฐบาล ถูกว่า ถูกเอาไปเหยียบกลางถนนทุกวัน ซึ่งสาเหตุที่หมอชลน่านออกมาสะท้อนแบบนี้ เนื่องจากหลังเลือกตั้ง ตอนนั้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยอมเปลืองตัวที่สุดในการออกมาแกะข้าวต้มมัด ฉีก MOU ก้าวไกล-เพื่อไทย ในการตั้งรัฐบาล จนถูกตราหน้าว่าตระบัดสัตย์

อย่างไรก็ตาม ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ถูกวิจารณ์มากเช่นกัน จากการออกกฎกระทรวงยาบ้า 5 เม็ด ถือเป็นผู้ป่วย สวนทางกับสถานการณ์ที่ประชาชนรู้สึกว่าปัญหายาบ้าระบาดทั่วบ้านทั่วเมือง

หลังถูกปรับออก ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "หมอชลน่านFc ไม่มีดราม่า" ก็ได้มีความเคลื่อนไหวแบบดรามาหนัก แต่งบทกลอนว่า "ชลน่านพลีชีพโดดเดี่ยวโดนกระทืบ ผู้คนหนีเข้าซอกหลืบหลบมุมไหน พอผ่านพ้นผู้คนตะเกียกตะกาย เหยียบย่ำแย่งเป็นใหญ่ไร้ยางอาย"

"ปานปรีย์" เปิดใจรับลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ
แต่ไม่ใช่แค่กรณีหมอชลน่านเท่านั้น การปรับ ครม. เศรษฐา 1/1 รอบนี้คิดว่าจะนิ่งแล้ว ที่ไหนได้ ยังมีสัญญาณความไม่พอใจออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฝั่งรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย หลัง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ถูกริบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เหลือเพียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพียงตำแหน่งเดียว ได้ร่อนเอกสารขอลาออกจากทุกตำแหน่งทันที ทำให้ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตำแหน่งที่ว่างสนิท เนื่องจาก นายจักรพงษ์ แสงมณี ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีช่วย ก็ได้ถูกโยกไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

การลาออกของ นายปานปรีย์ ครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นในเพื่อไทย เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่า นายปานปรีย์ เป็นสายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่ได้รับความไว้วางใจจากนายใหญ่และนายหญิงมาตลอด ซึ่งหากการริบเก้าอี้รองนายกฯ ครั้งนี้ มาจากการตัดสินใจของ นายเศรษฐา ที่ไม่ไปทางเดียวกันกับทิศทางของบ้านจันทร์ส่องหล้า ก็มีการวิเคราะห์กันว่า นี่อาจเป็นรูปธรรมของรอยร้าว ในสิ่งที่หลายฝ่ายเคยปรามาสว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นระบบ "หลายนายกฯ" และการลาออกครั้งนี้ยังสร้างแรงสะเทือนไม่น้อย เนื่องจาก นายปานปรีย์ เองเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีไม่กี่คนในรัฐบาลชุดนี้ ที่หลายฝ่ายค่อนข้างชื่นชมว่า เป็นรัฐมนตรีที่เหมาะสม และมีผลงาน

ขณะที่เอกสารที่ นายปานปรีย์ ให้เหตุผลในการลาออก ใช้ถ้อยคำที่ค่อนข้างร้อนแรงไม่น้อยเลยทีเดียว โดยบางช่วงบางตอนระบุว่า "สาเหตุของการปรับผมออกจากรองนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ผมเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับผมไม่มีผลงานแน่นอน เพราะผมทุ่มเทการทํางานด้านต่างประเทศ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และตั้งใจทําหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ มีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนมากขึ้น ตามที่รัฐบาลได้แถลงผลงานไปแล้ว จนสามารถตอบสนองต่อนโยบายการทูต เศรษฐกิจเชิงรุกอย่างเด่นชัด" ทั้งยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า "ผมหวังว่าการปรับคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะช่วยให้การบริหารราชการแผ่นดิน มีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง