เพื่อไทย ตีปี๊บสรุปผลงาน “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” 3 พ.ค.นี้ เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง ขึ้นโชว์วิสัยทัศน์ พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายกฯ อบจ.
วันนี้ (29 เม.ย.67) ที่พรรคเพื่อไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดงาน “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อ ให้เต็ม 10” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค.67 โดย นายสรวงศ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่รัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งและเริ่มบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.67 จนถึงวันนี้ นับเป็นเวลา 242 วัน หรือเกือบ 9 เดือน และกำลังเดินหน้าสู่เดือนที่ 10 พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ที่ไม่รอให้ สว.หมดวาระ ในเดือนพ.ค.67 ทำให้ความสำเร็จเริ่มทยอยออกดอกผลวันนี้ ทั้งหมดคือที่มาของการจัดงานในวันที่ 3 พ.ค.นี้
ภายในงานจะมีการเปิดวิสัยทัศน์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมวิสัยทัศน์นโยบายหลักของพรรค รวมทั้งเปิดตัวผู้สมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อประกาศความพร้อม และความสำเร็จในการทำงานที่ผ่านมา และจะมีการเปิดตัว PheuThai Party Academy อย่างไม่เป็นทางการอีกด้วย นอกจากนี้ จะมีการบอกเล่าถึงโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ที่นำร่องใน 4 จังหวัดแรกสำเร็จ และเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ที่เป็นนโยบายสำคัญ ในการสร้างรายได้ของประเทศ และจะสรุปผลงานการเดินหน้าเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมอย่างเป็นระบบ
10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 เพราะเวลาคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุด เวลาคือค่าใช้จ่ายราคาแพง และเพื่อไทยทำงานแข่งกับเวลา ใช้ทุกวินาที ทุกนาทีให้คุ้มค่า พร้อมทำงานเติมทุกนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ให้เต็ม 10 โดยใน 10 เดือนนี้ เราได้ประกาศจุดยืนเพื่อ Logistic Hub ที่สำคัญของเอเชีย เดินหน้าเชื่อมต่อการขนส่งผ่านระบบ รถ - เรือ - ราง และรันเวย์ ผ่านการสร้างรถไฟความเร็วสูง เร่งรัดโครงข่ายรถไฟรางคู่ ขยายท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และเสริมศักยภาพสนามบินนานาชาติทั้ง 4 แห่ง เพื่อเร่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ส่งเสริมการขนส่งสินค้า และการเดินทางระหว่างเมืองของประชาชน พร้อมกับความสำเร็จของการนำร่องโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และการเดินหน้าไปถึงเป้าหมายทุกเส้นทางใน
ปี 2568 เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชน รวมถึงการแสวงหาความร่วมมือทุกทาง เดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บานผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของการรดน้ำหน้าบ้านทุกครัวเรือน กระตุ้นกำลังซื้อ กระตุ้นการลงทุน ให้เศรษฐกิจฐานรากโตทุกชุมชน วางรากฐานประเทศไปสู่ Digitall economy และคืนศักดิ์ศรีประเทศไทยในเวทีโลกได้อีกครั้ง
