ตำรวจยืนยัน นักธุรกิจหญิงชาวฝรั่งเศส มอบมรดกให้แม่บ้านคนสนิท 100 ล้าน ฆ่าตัวตาย หลังเรียกคนสนิท และผู้เกี่ยวข้องสอบปากคำ ไม่พบพิรุธ ว่าถูกฆาตกรรม ส่วนศพส่งผ่าชันสูตร พร้อมติดต่อสถานทูต
วันนี้ (3 พ.ค. 67) พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ งามศรีอ่อน ผกก.สภ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยผลการสอบสวน สาเหตุการเสียชีวิตของ นาง แคทเธอรีน อายุ 59 ปี ชาวฝรั่งเศสภายในวิลลาหรูที่ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย ว่า จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจชุดสืบสวน ยืนยันว่า นาง แคทเธอรีน ก่อเหตุฆ่าตัวตาย และตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบวิลลาที่เกิดเหตุ ก็ไม่พบว่ามีผู้ใดเดินทางเข้า-ออก ช่วงดังกล่าว นอกจากนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานก็ได้เก็บพยานหลักฐานที่เกิดเหตุชัดเจน
ส่วนพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ได้เรียกผู้เกี่ยวข้อง ทั้งแม่บ้านคนสนิทของนาง แคทเธอรีน ทนายความ และเพื่อนชายคนสนิท มาสอบปากคำแล้ว ก็ไม่พบพิรุธ แต่หากการสืบสวนมีสิ่งบ่งชี้ว่า พบพิรุธการเสียชีวิตก็ต้องสืบสวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะมีคนอื่นทำให้เสียชีวิต แต่ถึงขณะนี้ยังไม่พบเรื่องดังกล่าว
ส่วนพินัยกรรม ที่มีการยกมรดกที่ดินให้ นาง ณัฐวลัย หรือ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิทนั้น พบว่า นางแคทเธอรีน ไปทำพินัยกรรมฉบับนี้ ที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่งในเกาะสมุย เมื่อวันที่ 26 เมษายน ไม่ได้นั่งเขียนบนโต๊ะทำงานริมสระว่ายน้ำภายในวิลลา ตามภาพจากกล้องวงจรปิด ตามที่สื่อบางแห่งระบุ และการนั่งบนโต๊ะดังกล่าว เป็นการนั่งพิมพ์คำสั่งเสียเท่านั้น ก่อนจะฆ่าตัวตาย ซึ่งทรัพย์สินที่ยกให้ นางณัฐวลัย คาดว่าไม่ถึง 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น บ้านหรือวิลลาหรูพร้อมที่ดิน ที่เกิดเหตุ มูลค่าราว 30 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 2 แปลง ราว 20 ล้าน และทรัพย์สิน เครื่องประดับ บางส่วนที่ตู้เซฟ และเงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนพินัยกรรมที่ทำไว้ นางแคทเธอรีน มอบหมายให้นาย เอ็มมานูเอล สัญชาติฝรั่งเศส เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมฉบับนี้ รวมทั้งหุ้นและทรัพย์สินในบริษัทฯ ที่ประกอบกิจการโรงแรม ที่พัก รีสอร์ต ด้วย ซึ่งบริษัทดังกล่าว จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 ทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท ซึ่งตำรวจจะเรียกกรรมการบริษัท มาสอบปากคำด้วย
นอกจากนี้ ศพนางแคทเธอรีน ได้ส่งไปผ่าชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีแล้ว พร้อมประสานสถานทูตฝรั่งเศสว่าจะให้ดำเนินการต่อไปอย่างไร และแจ้งให้สถานทูตแจ้งบุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ในคำสั่งเสียของนางแคทเธอรีน