คุณตาวัย 90 ยัน มีทองคำ 50 บาท จริง! และสงสัย ทองคำมันหายไปไหน หลังเรียกกู้ภัยมาช่วยจัดการศพน้องสาว

คุณตาวัย 90 ยัน มีทองคำ 50 บาท จริง! และสงสัย ทองคำมันหายไปไหน หลังเรียกกู้ภัยมาช่วยจัดการศพน้องสาว

View icon 181
วันที่ 4 พ.ค. 2567 | 13.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คุณตาวัย 90 ยัน มีทองคำ 50 บาท จริง! และสงสัย ทองคำมันหายไปไหน หลังเรียกกู้ภัยมาช่วยจัดการศพน้องสาว ขณะที่ หนึ่งในอาสาสมัครกู้ภัย  ชี้แจงแล้ว เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวตาวัย 90 ปี มีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีใครหยิบทองคำของไปตามที่ถูกกล่าว พร้อมแจงเจอเงิน 40,000 บาทในถุงขยะยังนำมาคืน “ตายังตกใจว่ามีเงินอยู่ในถุงด้วย”

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่ สน.บางเขน คุณตาเกียรติ อายุ 90 ปี เดินทางมาแจ้งความ เนื่องจากบัตรประชาชนหาย ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังจากที่ นางสาวล้วน น้องสาว เสียชีวิตบนที่นอนในบ้าน ส่วนจากนั้นขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและเรียกกู้ภัยจากมูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือ จัดการศพของน้องสาวและช่วยเหลือพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล  แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้น พบว่า ทองคำเส้น กว่า 50 บาท ได้หายไปจากบ้าน จึงตั้งข้อสงสัยและอยากทราบว่า ทองคำมันหายไปไหน

คุณตาเกียรติ กล่าวว่า  ตนเองพักอาศัยอยู่ที่บ้านย่านวัชรพล เขตรามอินทรา กับพี่สาวคือ นางสาวเบญจรัตน์ อายุ 92 ปี  และน้องสาว คือ นางสาวล้วน อายุ 85 ปี ผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 พี่น้อง โดยไม่มีลูกหลานอาศัยอยู่ด้วยเลย โดยในวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา นางสาวล้วน เสียชีวิตบนที่นอนในบ้าน ส่วนนางสาวเบญจรัตน์ ล้มที่หัวเตียง ท่ามกลางกองปัสสาวะและอุจจาระ โดยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้คุณตาเกียรติ ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและเรียกกู้ภัยจากมูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือ จัดการศพของน้องสาวและช่วยเหลือพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างที่จัดการศพนั้น ต้องใช้บัตรประชาชน ซึ่งคุณตา ไม่รู้ว่าบัตรประชาชนของน้องสาวอยู่ที่ไหน และสภาพบ้านค่อนข้างรก เพราะไม่มีใครดูแล ทำให้ต้องขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยช่วยกันรื้อข้าวของในบ้านเพื่อค้นหา จนกระทั่งเจอเอกสารของน้องสาวและจัดการศพได้เป็นที่เรียบร้อย

จากนั้น ไม่กี่วันต่อมา คุณตาเกียรติ มาสำรวจทรัพย์สินในบ้าน พบข้าวของถูกรื้อกระจุยกระจายไปหมด และจำได้ว่า ภายในบ้านไม่ได้ข้าวของรกแบบนี้ จากนั้นตรวจดูที่ใต้เตียงของน้องสาวคนตาย ซึ่งพบว่า กล่องสแตนเลสที่เคยวางอยู่ใต้เตียงของน้องสาว เมื่อเปิดออกมา ก็พบว่า มันไม่มี ทองคำรูปพรรณ ทั้งสร้อยทอง สร้อยข้อมือต่างหู ไม่ต่ำกว่า 50 บาท มูลค่าตอนนี้ 2 ล้านกว่าบาทได้หายไป พร้อมกับ นาฬิกาทองคำ MIDO ทั้ง 3 เรือน ได้หายไปด้วย

โดยในวันเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดกู้ภัยเข้ามาเก็บของ ภายในห้องของน้องสาวประมาณ 3 คน แต่ไม่รู้ว่ารายละเอียด เขามาทำอะไรบ้าง แต่ก่อนที่จะออกจากบ้านไป มีผู้หญิง ชื่อ ปัด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เขียนเบอร์ส่วนตัวของตัวเอง แล้วบอกว่า ถ้าหากอยากจะให้มาทำความสะอาดบ้าน ก็สามารถโทรมาหาได้เลย

“ ยืนยันว่า ตาเคยเห็นทรัพย์สินทั้งนาฬิกาและทองคำรูปพรรณจริงๆ เนื่องจากน้องสาวเคยเปิดให้ดูและบอกที่เก็บว่า เก็บไว้บริเวณใต้เตียงของตัวเอง แต่จำไม่ได้ว่าเห็นครั้งล่าสุดเมื่อปีไหน และตาเองก็ไม่ได้เข้าไปสุงสิงกับน้องสาวและพี่สาวเลย ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดแล้ว โดย ทรัพย์สินที่หายไปนั้น เป็นทรัพย์สินมรดกตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่และตาตั้งใจเก็บไว้ดูแลตัวเองในยามแก่เฒ่า ถ้าหากเจ็บป่วย ก็จะนำทองรูปพรรณเหล่านี้ไปขายเพื่อดูแลตัวเองดูแลตัวเอง แต่เมื่อทองคำได้หายไป จึงได้มาลงบันทึกประจำวันของหายไปไว้ที่สน. บางเขน เพราะอยากจะรู้ว่าทรัพย์สินของตาหายไปไหน ” อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากจะปรักปรำใคร เพียงแต่สงสัยว่าทองคำเส้นทั้งหมด 50 บาทนั้น มันหายไปไหน

ทั้งนี้ คุณตายังมีปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาลของพี่สาวตัวเองที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลสินแพทย์ ซึ่งในวันที่น้องสาวเสียชีวิต พี่สาวล้ม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล แต่ตอนนี้คุณตาต้องการอยากจะทำเรื่องส่งย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลรัฐบาล เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชน มีค่าใช้จ่ายสูงแต่ทางทีมแพทย์ไม่ทำเรื่องส่งตัวให้ เนื่องจาก ไม่มีโรงพยาบาลรัฐบาล แต่ทางโรงพยาบาล บอกว่า “ถ้าหากลุงไม่เซ็น จะไม่รักษาพี่สาว” ทำให้ คุณลุงต้องจำใจเซ็น เพราะกลัวพี่สาวจะเป็นอะไรไป สุดท้ายนี้ อยากจะ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานว่าจะมีโรงพยาบาลรัฐบาลที่ไหนจะสามารถรับพี่สาวไปรักษาต่อได้หรือไม่

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่หนึ่งในทีมกู้ภัยที่ให้การช่วยเหลือในวันนั้นบอกว่าข้อเท็จจริงทุกอย่างได้ชี้แจงให้กับตำรวจฟังไปทั้งหมดแล้วซึ่งตัวเองยืนยันในความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีการไปรื้อค้นข้าวของมีค่าของคุณตาและไม่มีใครหยิบทองคำของคุณตาออกไปตามที่ถูกกล่าวหา

โดยวันนั้นหลังจากได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านก็ประสานทีมลงพื้นที่ไปให้การช่วยเหลือ พบมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอายุ 92 ปี เสียชีวิตอยู่บนเตียง ลักษณะสภาพเริ่มมีหนอนขึ้นบริเวณที่ศีรษะ ส่วนบริเวณพื้น พบหญิงอีกรายอายุ 85 ปี นอนป่วยจมกองอุจจาระปัสสาวะอยู่ จึงพยายามให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล และจัดการศพหญิงสูงอายุที่นอนเสียชีวิตอยู่ โดยวันนั้นได้มีการถามหาบัตรประชาชน และเอกสารเพื่อที่จะนำไปติดต่อกับหน่วยราชการ เพื่อแจ้งการเสียชีวิต

โดยระหว่างที่ถามหาบัตรประชาชนและเคลียร์พื้นที่เต็มไปด้วยอุจจาระปัสสาวะ ยังไปพบถุงคล้ายถุงขยะมีเงินอยู่ในนั้นจำนวน 40,000 บาททางตัวเองและทีมก็ยังนำไปคืนคุณตา คุณตายังตกใจถามกลับว่า “มีเงินอยู่ในถุงด้วยหรอ” ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่มีใครหยิบหรือขโมยของมีค่าไปอย่างแน่นอน รวมถึงสภาพห้องวันที่เข้าไปรกมาก ข้าวของกระจัดกระจาย

1 ในกู้ภัยรายนี้ ยังบอกอีกว่าเรื่องทองคำที่หายไป ตัวเองก็ไม่ไม่แน่ใจว่า ด้วยอายุของคุณตา อาจจะทำให้หลงลืมหรือมีภาพจำในอดีตว่ามีทองคำอยู่ในกล่องเหล็ก แต่วันนั้นสภาพบ้านที่เข้าไปค่อนข้างรกมากแล้วไม่มีใครไปรื้อค้นข้าวของมีค่า มีแต่ช่วยกันจัดการเรื่องของศพ ตอนนี้ยอมรับว่า พอเจอเหตุการณ์มาถูกกล่าวหาแบบนี้ ก็รู้สึกท้อใจที่ทำความดี หลังจากนี้ จะเข้าไปช่วยเหลือใครก็คงจะต้องตรวจสอบให้ดีเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกยอมรับว่าที่ก่อนหน้านี้มีข่าวนำเสนอไปทำให้เกิดความเสื่อมเสีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง