จอมหื่นสะกดรอยตามย่ำยีสาวในฟิตเนส

จอมหื่นสะกดรอยตามย่ำยีสาวในฟิตเนส

View icon 73
วันที่ 4 พ.ค. 2567 | 14.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบจอมหื่น สะกดรอยชีวิตของเหยื่อสาวกว่าหลายเดือน ก่อนสบโอกาสลากเหยื่อไปข่มขืน อ้างสื่อสารกับองค์เทพขอโทษเหยื่อ และคิดไว้แล้วต้องถูกสารวัตรแจ๊ะจับกุม

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ,พร้อมชุดสืบสวนนครบาล และ สน.ดินแดง  ร่วมกันจับกุม นายณัฐพล หรือนัท อายุ 45 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยจับกุมได้ที่ กลางถนนวิภาวดี-รังสิตขาออก บริเวณสนามบินดอนเมือง

สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2566 ผู้ต้องหา ฉายา “night stalker” ซึ่งมีหน้าโชเฟอร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนเหยื่อสาว อายุ 22 ปี ทำงานที่บริษัทเดียวกัน ผู้ต้องหาเฝ้าสะกดรอยตามเหยื่อ และขอย้ายมาอยู่แผนกเดียวกับเหยื่อ เมื่อได้ทำงานใกล้ชิด ได้พยายามซักถามข้อมูลส่วนตัว ถึงขั้นนำสิ่งของบางอย่างมาสูดดม หลังเลิกงานได้สะกดรอยตามไปตามเฝ้าที่ป้ายรถเมล์ แอบขึ้นรถเมล์ไปด้วยจนถึงที่พัก โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว ทำแบบนี้อยู่นานนับเดือน กระทั่งวันเกิดเหตุ ที่บริษัทจัดงานกินเลี้ยงสังสรรค์ เมื่อเลิกงานผู้ต้องหาฉวยโอกาสตามเธอกลับมาที่บริษัทฯ ซึ่งมีคนมีใครอยู่ ผู้ก่อเหตุ ลงมือลากเหยื่อเข้าไปในห้องฟิสเนต ลงมือกระทำชำเราจนหมดสติ เมื่อฟื้นคืนสติ ได้ใช้เท้าถีบคนร้าย หนีออกมาได้ ก่อนจะเข้าแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น และแจ้งเรื่องให้กับหัวหน้าในบริษัททราบทันที ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าหลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุกลับเข้าไปทำความสะอาด และทำลายหลักฐาน ก่อนที่จะหายตัวไป ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ

พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสืบนครบาลไล่ล่าติดตามตัวคนร้าย กระทั่งพบบุคคลต้องสงสัย มีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้าย กำลังขับรถยนต์อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต จึงชุดสืบเร่งติดตาม กระทั่งสามารถจับกุ่มคน้รายเอาไว้ได้

ในชั้นจับกุม นายณัฐพล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นสตอกเกอร์ แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของเหยื่อ วันเกิดเหตุหลังกินเลี้ยงตนเอง และผู้เสียหาย เมาไม่ได้สติ จึงพากลับมาที่บริษัท ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ลงมือกระทำชำเราเหยื่อ ช่วงที่หลบหนีตั้งจิตขอขมาองค์เทพ และผู้เสียหาย จนในวันที่ถูกจับมีลางสังหรณ์จากองค์เทพว่าจะถูกลงโทษจากคดีความที่เคยก่อไว้ และอยากเจอกับสารวัตรแจ๊ะหมวกไหมพรหม  เพราะติดตามในติ๊กตอกมานาน และคิดว่าสักวันตนอาจจะถูกสารวัตรแจ๊ะจับ อีกทั้งตนยังอยากคุยกับผู้การจ๋อ เพราะติดตามมานานและคิดว่าผู้การจ๋อซึ่งน่าจะเข้าใจตนมากที่สุด”

อย่างไรก็ดีตำรวจ ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เพราะพยานหลักฐานในคดีนี้แน่หนามาก และจากการตรวจสอบพฤติกรรมของคนร้ายพบว่ามีการเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยครั้งมาก เป็นไปได้สูงที่อาจจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง