คนร้ายลอบวาง จยย.บอมบ์ ใกล้จุดตรวจของฝ่ายปกครองเมืองนราธิวาส และอยู่ไม่ไกลจากจุดจัดงานกาชาด สวน ร.5 ศูนย์ราชการ ตรวจสอบเป็นรถจยย.ที่คนร้าย จี้มาจากอำเภอตากใบ
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 พ.ค.67 พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส พ.ต.อ.ทศม ม่วงเกษม ผบ.ฉก.ตร.นราธิวาส 93 พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิด จยย.บอมบ์ บริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย ถ.ภูผาภักดี ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ในช่วงคืนที่ผ่านมา เวลา 21.35 น. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน รถ จยย.ได้รับความเสียหาย 5 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นริมฟุตบาท เยื้องกับจุดตรวจจุดสกัดเซฟตี้โซนของฝ่ายปกครอง ประมาณ 20 เมตร พบเศษซากชิ้นส่วนของรถ จยย.ที่คนร้ายได้ใช้เป็นพาหนะซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่อง มีสภาพชิ้นส่วนขาดเป็น 2 ท่อน ตกกระจัดกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ ตรวจสอบพบว่าเป็นรถ จยย. สีเขียว ผู้ครอบครองคือ น.ส.รุ่ง ได้แจ้งหายที่ สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2566 หลังคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ จากพื้นที่ ม.5 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ
นอกจากนี้ยังพบเศษซากชิ้นส่วนของภาชนะ ที่คนร้ายได้ใช้ในการบรรจุระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งเป็นกล่องเหล็ก หนักประมาณ 5 กก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร และพบ รถ จยย. ของชาวบ้าน ได้รับความเสียหาย 5 คัน สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นมีชายฉกรรจ์ ต้องสงสัยขี่รถ จยย.มาจอดที่เกิด ก่อนที่จะเกิดระเบิดดังขึ้น
แหล่งข่าวหน่วยความมั่นคงที่ชำนาญเรื่องวัตถุระเบิด เผยว่า คนร้ายได้มีการดัดแปลงช่วงถังน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยการถอดถังน้ำมันเชื้อเพลิงทิ้ง แล้วทำการขึ้นรูปภาชนะที่ประกอบระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายใน ให้มีขนาดพอดีหรือเล็กกว่าถังน้ำมันเชื้อเพลิงเล็กน้อย นำมาติดตั้งใส่ที่บริเวณถังน้ำมันเชื้อเพลิงแทน เพื่ออำพรางหากถูกตรวจค้น แล้วคนร้ายได้ใช้ขวดน้ำพลาสติกใส่น้ำมันเชื้อเพลิง แทนถังน้ำมันที่ใช้หล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ นำมาผูกไว้กับตัวถัง รถจยย. ที่สามารถขับขี่รถ จยย.คันดังกล่าวมาจอดเพื่อก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่คาดเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่ต้องการให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว เนื่องจากในช่วงนี้ จังหวัดนราธิวาส ได้จัดงานกาชาดขึ้นที่บริเวณ สวน ร.5 ศูนย์ราชการ ที่มีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวในงานเป็นจำนวนมาก จึงต้องการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
