“แอสตราเซนเนกา” (AstraZeneca) ประกาศเรียกคืนวัคซีนโควิด-19 จากทั่วโลก หลังวัคซีนเริ่มไม่เป็นที่ต้องการ เนื่องจากวัคซีนรุ่นใหม่มีมากขึ้นและมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า และก่อนหน้านี้ทางบริษัทเพิ่งยอมรับว่าวัคซีนของบริษัทอาจทำให้เกิดลิ่มเลือดและเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งอาจส่งผลถึงชีวิต
วันนี้ (8 พ.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทยา “แอสตราเซนเนกา” (Astrazeneca) ได้ออกแถลงการณ์ว่า กำลังเรียกคืนวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากทั่วโลก โดยสาเหตุมาจากวัคซีนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่เริ่มล้นตลาด และมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า ทำให้วัคซีนโควิด-19 รุ่นเก่าไม่เป็นที่ต้องการของตลาดอีกต่อไป และบริษัทจะไม่ผลิตและจัดจำหน่ายเพิ่มอีกต่อไป
โดยความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น หลังจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทแอสตราเซนเนกา ได้ยื่นคำร้องขอถอนตัวออกจากตลาดยาในสหภาพยุโรป ซึ่งองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปได้ประกาศให้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกา เป็นวัคซีนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานได้อีก โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวานนี้
ขณะที่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แอสตราเซนเนกาเพิ่งออกมายอมรับว่า วัคซีนของบริษัทอาจทำให้เกิดลิ่มเลือดและเกล็ดเลือดต่ำ ที่อาจส่งผลให้ถึงแก่ชีวิต แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นยังน้อยมาก
ทั้งนี้ บริษัทแอสตราเซนเนกา เผยว่า ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด แอสตราเซนเนกาได้ส่งวัคซีนมากกว่า 3,000 ล้านโดสไปทั่วโลก ที่สามารถช่วยชีวิตคนได้มากกว่า 6.5 ล้านคนในปีแรก และเป็นที่ยอมรับของรัฐบาลทั่วโลก ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะทำงานร่วมกับพันธมิตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมหาแนวทางที่ชัดเจนในการสรุปที่มาที่ไปของการระบาดโควิด-19 ต่อไป