ตร.ไซเบอร์จับอดีตแอดมินเว็บพนันฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ลอบขายข้อมูลส่วนตัวนักเสี่ยงโชคออนไลน์กว่า 3 แสนราย
วันนี้ ( 8 พ.ค.67 ) สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ พบเบาะแสว่ามีกลุ่มเฟซบุ๊กแบบปิด มีการเสนอซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า สิ่งของที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งประกาศรับสมัครทำงานสีเทาต่าง ๆ โดยมีสมาชิกกว่า 3 หมื่นคน และมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ประกาศขายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า กลุ่มการพนันออนไลน์ จำนวน 100,000 รายชื่อ ในราคา 2,500 บาท โดยข้อมูลที่ถูกนำมาขาย ประกอบด้วยข้อมูล ชื่อ-สกุล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร และ ไลน์ไอดี
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงมอบหมายให้ บก.สอท.3 เร่งสืบสวนจนทราบว่า เจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์ขายคือ นายศราวุฒิ หรือจ๊าบ จึงให้สายลับทดลองสั่งซื้อ และนำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบ พบว่าทั้งชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลอื่น ๆ ที่ปรากฏในไฟล์ เป็นข้อมูลของบุคคลที่มีตัวตนจริง จึงรวบรวมหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับได้
ล่าสุดตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 บช.สอท. ได้นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญาที่ 2071/2567 ลง 7 พ.ค.67 เข้าจับกุม นายศราวุฒิ หรือจ๊าบ อายุ 26 ปี โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด พร้อมโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จากการตรวจสอบ พบว่ามีไฟล์ข้อมูลของนักพนันออนไลน์ ในเครื่องรวมกว่า 300,000 รายชื่อ
สอบถามนายศราวุฒิ หรือจ๊าบ ให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน เคยทำงานเป็นแอดมินและเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดให้เว็บพนันออนไลน์ทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับค่าตอบแทนประมาณ 40,000 - 50,000 บาทต่อเดือน โดยทำหน้าที่ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์หรือไอดีไลน์ที่ทางหัวหน้างานให้มา เพื่อโพรโมทเว็บไซต์พนันออนไลน์ ส่วนข้อมูลบุคคลที่ตนได้มา เป็นฐานข้อมูลของลูกค้าที่เคยสมัครเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่หัวหน้าของตนเป็นคนดูแล โดยข้อมูลทั้ง 3 แสนรายในโทรศัพท์มือถือ ได้ขายให้ผู้อื่นไปแล้วกว่า 10 ครั้ง นอกจากนี้ ยังให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลสามารถ นำมาทำรายได้ได้ ส่วนใหญ่แอดมินของเว็บไซต์พนันออนไลน์ต่าง ๆ จึงมักลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาเสนอขายให้แก่บุคคลทั่วไป
จึงถูกแจ้งข้อหาในความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ฐาน “เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.3 ดำเนินคดีดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเดินหน้าขยายผลเพื่อจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
