ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ไม่ทน พาลูกชายอายุ 3 ขวบ ไปหาหมอด้วยอาการไข้สูง แต่พยาบาลเจาะน้ำเกลือพลาด จนมือน้องบวม พอง หวิดถูกตัดแขน
นี่เป็นสภาพมือของเด็กชายอายุ 3 ขวบ ทั้งบวม พอง เขียวช้ำ หลังมารักษาอาการท้องเสีย ไข้สูง ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา แต่ระหว่างการรักษา พยาบาลเจาะน้ำเกลือให้ที่มือซ้าย แต่เกิดความผิดพลาด คลิปนี้แม่เด็กชายนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก
ผู้สื่อข่าวสอบถามแม่ของเด็กชาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ลูกชายชื่อ น้องการ์ฟิน มีอาการท้องเสีย ไข้สูง ไม่กินอาหาร จึงพาไปโรงพยาบาล คุณหมอให้น้องแอดมิตที่โรงพยาบาล แต่พอน้องถูกเจาะน้ำเกลือเสร็จ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่พอเช้าวันต่อมา พยาบาลเข้ามาดูอาการ สังเกตเห็นว่าทำไมมือลูกชายเริ่มบวมเขียว แขนเริ่มตึง มีตุ่มน้ำพอง ตนเองตกใจมาก จึงถามว่าเกิดจากอะไร พยาบาลตอบว่าน่าจะเกิดจากลูกชายดิ้น ทำให้เข็มน้ำเกลือหลุด ไม่เข้าเส้นเลือด พอถามซ้ำว่าจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ พยาบาลตอบว่าไม่มี แต่ตนเองรู้ไม่สบายใจ และไม่มั่นใจในการทำงานของบุคลากรโรงพยาบาลแห่งนี้ จึงขอย้ายลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น
หลังจากย้ายลูกชายมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ แพทย์ระบุว่า สาเหตุอาจเกิดจากการเจาะน้ำเกลือพลาด น้ำเกลือไม่ได้เข้าเส้นเลือด แต่กลับไปอยู่ใต้ผิวหนังแทน ตอนนี้น้องมีอาการดีขึ้นแล้ว ตุ่มพองยุบแล้ว เหลือแค่อาการบวม เมื่อวานนี้ มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเดิมมาเยี่ยม และขอให้ลบโพสต์ หวั่นว่าจะกระทบต่อสภาพจิตใจของบุคลากรท่านอื่นที่โรงพยาบาล แต่ตนเองยังไม่พร้อมคุย
ล่าสุดวันนี้ นพ.ชยพล สุขโต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประทาย ได้ออกมาชี้แจงว่า สาเหตุเกิดจากเข็มสารน้ำได้หลุดออกจากเส้นเลือด ทำให้สารน้ำรั่วออกมาสู่เนื้อเยื่อ จึงเกิดอาการแขนบวม อีกทั้งมีการตรวจสอบเพิ่มเติมผู้ป่วยรายนี้ ค่อนข้างแทงเส้นเลือดยาก พยาบาลพยายาม 2-3 ครั้ง หลังจากที่ให้สารน้ำก็ไม่พบว่ามีความผิดปกติ คาดว่าการรั่วของสารน้ำน่าจะเกิดขึ้นช่วงเช้า เบื้องต้นโรงพยาบาลได้เข้าไปอธิบายสาเหตุการเกิดการรั่วของสารน้ำ และส่งตัว น้องการ์ฟิน ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบัวใหญ่ กับกุมารแพทย์
ส่วนการเยียวยาเบื้องต้นทางโรงพยาบาลจะดูแลค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลและจ่ายเงินชดเชยให้กับแม่น้องการ์ฟิน หลังจากที่ต้องหยุดงานมาดูแลลูกชาย ทำให้ขาดรายได้ อีกทั้งทางโรงพยาบาลเตรียมยื่นคำร้องขอการเยียวยาจากกองทุนช่วยเหลือทางการแพทย์ พ.ศ.2557
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัวน้องการ์ฟิน ยืนยันว่าจะดูแลรับผิดชอบช่วยเหลือเต็มที่ หลังจากนี้จะทบทวนมาตราการดูแลผู้ป่วย และจะเพิ่มจำนวนการตรวจดูสารน้ำผู้ป่วยให้มากขึ้น
