ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีนี้แมลงอีนูนเป็นเหตุ ช่วงนี้เริ่มมีฝนตกชาวบ้านออกหาจับกัน แต่เกิดไปแย่งพื้นที่ดักตาข่าย จนมีปากเสียงถึงขั้นแทงกันเสียชีวิต
ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุคนแทงกันเสียชีวิต บริเวณป่าในหมู่บ้าน ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องขับรถไปตามถนนดินกลางทุ่งนา จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าละเมาะ และไร่มันสำประหลังอีกกว่า 1 กิโลเมตร ไปถึงพบรอยเลือดกองอยู่ตามพื้น และท่อนไม้ 1 ท่อน
สอบสวน นางนิล แม่ของผู้ก่อเหตุเล่าว่า 2 วันที่ผ่านมา ตนกับ นายกฤษณะ ลูกชาย มาขึงดักตาข่ายแมลงอีนูนเพื่อนำไปกินและขาย เมื่อดักเสร็จก็เก็บตาข่าย เหลือเพียงไม้ที่ปักไว้ วันเกิดเหตุ 21.00 น. คืนที่ผ่านมา ตนกลับมาดักใหม่อีกครั้ง เห็นตาข่ายของคนอื่นมาขึงอยู่กับหลักของตน และเห็นว่าตาข่ายพันกันก็เลยม้วนไว้กับหลัก แต่เมื่อ นายวิโรจน์ (ผู้เสียชีวิต) มาเห็น ก็โวยวายหาว่าเก็บตาข่ายของตน จึงอธิบายว่าเห็นตาข่ายพันกันจึงเก็บม้วนไว้ให้ นายวิโรจน์ ก็ยังไม่พอใจจะเข้ามาทำร้าย จนมีปากเสียงกับลูกชาย และถูก นายวิโรจน์ พยายามใช้ปืนยิง 3 ครั้ง แต่กระสุนด้าน จึงใช้ปืนตบหน้าลูกชาย 1 ครั้ง ลูกชายจึงใช้มีดสปาต้าแทงจนเสียชีวิต ก่อนยืนรอมอบตัวกับตำรวจ
ด้านตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของทั้ง 2 คน เพราะว่าผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกแทงถึง 5 แผล ล้วนเป็นแผลฉกรรจ์ นอกจากนี้ยังพบที่ลำคอมีรอยคล้ายถูกเชือกรัดจนเขียวช้ำ ตำรวจต้องส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนอาวุธปีนลูกซองสั้น ที่ทั้ง 2 คน อ้างในที่เกิดเหตุตำรวจก็ยังหาไม่พบ
พันตำรวจเอก เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่าคดีนี้สาเหตุมาจากทั้ง 2 ฝ่าย ได้แย่งที่ขึงตาข่ายดักจับแมลงอีนูนกัน เนื่องจากช่วงนี้ฝนเริ่มตกใหม่ ๆ แมลงอีนูนจะบินออกมาจากที่ซ่อน เพื่อออกมาจับคู่ผสมพันธ์ุ พอบินออกมาจากรูก็จะมาชนติดกับตาข่ายที่ชาวบ้านดักไว้ นำไปขายต่อให้แม่ค้าที่มารับซื้อตัวละ 2-2.50 บาท ที่เหลือก็เก็บไว้กินเอง
