ห้องข่าวภาคเที่ยง - จากกรณี ไล่จับลูกเสือโคร่งหลุด ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ดูแล้วเรื่องนี้ยาว! ทางเจ้าของฟาร์มบอกว่า น้องไม่ใช่เสือโคร่ง แต่น้องเป็นไลเกอร์ เพนต์สี
แต่พอทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปขอดูหลักฐาน กลับไม่พบว่าน้องเป็นไลเกอร์ แต่น้องคือสิงโต
ลำดับเรื่องนี้ ตั้งแต่เมื่อวาน หลังทราบว่ามีน้องเสือโคร่งหลุดมากัดคน พื้นที่ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันจับลูกเสือโคร่งจนได้ ก่อนจะนำไปเก็บไว้ที่ สภ.บางปะกง ไม่นาน เจ้าของก็นำเอกสารหลักฐานมาขอรับกลับไป โดยระบุว่า น้องเป็นไลเกอร์ ซึ่งในทางกฎหมาย ไม่ได้ควบคุม เลี้ยงน้องได้
ตามด้วยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าตรวจสอบฟาร์มของน้อง ปรากฏว่า หลักฐานที่นำมาแสดง น้องไม่ใช่ไลเกอร์ แต่เป็นสิงโต ครอบครองได้ แต่ต้องมีใบอนุญาต
เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สอบถามไปยังฟาร์ม ยืนยันว่า น้องคือสิงโตนี่แหละ แค่ย้อมสี เพื่อเตรียมนำไปแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูด ติดสัญญา จึงต้องบังหน้าน้อง แต่ทางกรมอุทยานฯ ไม่เชื่อ เนื่องจากสักษณะลำตัว รูปหน้า ไม่เหมือนกันเลย
มองด้วยตาเปล่า จะเห็นว่าขนาดตัวก็ต่างกัน ตัวที่จับได้ขนาดใหญ่กว่า ตัวที่จับได้มีลาย ส่วนตัวที่นำมาให้เจ้าหน้าที่ดูลายหายไปแล้ว ซึ่งผู้ดูแลอ้างว่าเป็นการทาสีให้เหมือนเสือ หน้าตา หนวดเครา ก็ไม่เหมือนกัน
เจ้าของฟาร์มยังคงยืนยันว่าเป็นการทาสี ไม่ใช่เสือโคร่ง ซึ่งน้องตัวเล็ก ใช้เวลาเพนต์ 2 วัน ถ่ายทำอีก 8 วัน รวม 10 วัน เช่าไปในราคาวันละ 100,000 บาท แต่หลังทาสีน้องเสร็จ น้องปีนกำแพงออกมา จนกลายเป็นเรื่องเป็นราว
ตอนไปรับตัวกับทางตำรวจ ทีมงานก็นำบัตรประชาชน และสคริปต์ภาพยนตร์ ไปยืนยันกับตำรวจ และขอรับตัวกลับมาที่ฟาร์ม พอถ่ายภาพยนตร์เสร็จ ก็จับน้องอาบน้ำ จึงทำให้ลายเสือหายไป
ด้าน นายพิทักษ์ อินทศร ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ระบุว่า ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ยังไม่ยืนยันว่าน้องคือตัวอะไร แต่ที่แน่ ๆ เสือโคร่งที่หลุด น่าจะเป็นคนละตัวกับที่ฟาร์ม เพราะขนาดตัวต่างกัน
ขณะที่ นายคเชนทร์ เที่ยงมณี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางปะกง ระบุว่า บ่ายวันนี้ชุดเหยี่ยวดงจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดที่มีการพบ ในชุมชนซอยบางวัว-บางจาก และจะไปตรวจสอบที่บ้านเจ้าของน้อง ที่นำเสือโคร่งมาพักไว้ แล้วหลุดออกมา
อีกทั้งชุดเหยี่ยวดงจะเข้าแจ้งความที่ สภ.บางปะกง เพื่อตรวจสอบเอกสารที่เจ้าของนำมายื่นรับน้องกับทางตำรวจ เพราะมีการแจ้งว่าน้องเป็นไลเกอร์ อายุ 2 ปี ชื่อ น้องไจแอนด์ ซึ่งเรื่องนี้ อาจมีผู้มีอำนาจ มีอิทธิพล อยู่เบื้องหลัง จึงยอมคืนน้องไปอย่างง่ายดาย
สำหรับความต่างของ เสือโคร่ง สิงโต ไลเกอร์ และไทกอน ตามกฎหมาย คือ เสือโคร่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ผู้ที่มีตัวเสือโคร่ง หรือ ซากสัตว์เสือโคร่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ จึงต้องแจ้งขอขึ้นทะเบียน
สิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุมตามอนุสัญญาไซเตส จะต้องแจ้งครอบครอง กรณีไม่แจ้งการครอบครองผู้กระทำผิดจะต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนไลเกอร์ และไทกอน คือ ผสมเทียมระหว่างสิงโตกับเสือโคร่ง จึงยังไม่ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ผู้ที่ชื่นชอบสัตว์เหล่านี้ จึงซื้อหามาเลี้ยง
