หนุ่ม อายุ 25 ปี หูแว่ว สวมหมวกกันน็อก วิ่งหนีขึ้นไปปีนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ก่อนกระโดดลงมาดับอนาถ พ่อ แม่ เผยก่อนเกิดเหตุพาลูกไปตลาด แต่ลูกวิ่งหนี แม้จะขับรถตามแต่ช่วยไม่ทัน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 พ.ค.67 ร.ต.อ.สิทธิชัย แสงขาว รอง สว.(สอบสวน)สน. สายไหม ได้รับแจ้งชายกระโดดสถานีรถไฟฟ้า(บีทีเอส) ลงมาเสียชีวิต จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่กลางถนนพหลโยธินขาเข้า ช่วงสถานีรถไฟฟ้าพิพิธภัณฑ์ทหารอากาศ พบศพนายนิธิ อายุ 25 สภาพจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลศีรษะแตก ร่างกาย แขน ขาหักผิดรูป ใกล้กันมีหมวกกันน๊อกแบบครึ่งใบตกอยู่
จากการสอบสวน ผู้ที่เห็นเหตุการเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้วิ่งขึ้นมาบนสถานีรถไฟฟ้า โดยไม่ถอดหมวกกันน๊อก ได้ติดต่อซื้อตั๋วไปลาดพร้าว เมื่อได้เดินเข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่ขายตั๋ว สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงแจ้งพนักงานรักษาคงามปลอดภัยมาช่วยดู ไม่นานก็มีคนวิ่งขึ้นมาบอกช่วยจับผู้ตายไว้ก่อน เพราะน่าจะหูแว่วมีคนตาม จึงช่วยกันวิ่งตาม แต่ผู้ตายกระโดดลงไปในรางรถไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตัดไฟ แล้ววิ่งตามเมื่อมาถึงสถานีรถไฟฟ้าพิพิธภัณฑ์ทหารอากาศ ผู้ตายได้ปีนขอบรางขึ้นไปแล้วทิ้งตัวลงมาเสียชีวิต
สอบถามครอบครัวของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ลูกชายป่วยจิตเวชมาหลายปี มักจะมีอาการหูแว่ว เหมือนได้ยินเสียงคนพูด มีประวัติการรักษาที่ รพ.ภูมิพล ก่อนเกิดเหตุตนพาลูกชายมาที่ตลาดเอซีสายไหม ขณะกำลังจะกลับลูกชายได้วิ่งหนี โดยมีพ่อขับรถตามมาตลอดทาง ระยะทางกว่า 3 กิโลเมื่อมาถึงแยก คปอ. ลูกชายพยายามวิ่งหนีจึงประสานให้ตำรวจจราจรช่วย แต่ลูกชายกลับวิ่งขึ้นไปบนรถไฟฟ้า แล้ววิ่งลงไปในรางรถไฟ ตนจึงขับรถไปดักที่สถานีพิพิธภัณฑ์ ฯ ขึ้นบันไดไปได้ครึ่งทางก็พบว่าลูกชายโดดลงมาเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุต่อไป