ลูกเสือโคร่งหลุดเดินในชุมชน มีชื่อแล้วว่า "นีน่า" กรมอุทยานแห่งชาติฯ เตรียมเรียกค่าดูแลลูกเสือโคร่งจากเจ้าของ เป็นเงิน 1.3 ล้านบาท
(18 พ.ค.67) จากกรณีที่มีลูกเสือโคร่งหลุดออกมาเดินอยู่ในชุมชน ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงดึกของวันที่ (16 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยเจ้าของได้อ้างว่าเป็นลูกสิงโตผสมเสือโคร่ง หรือ “ไลเกอร์” และได้มีการเพ้นท์สีให้เหมือนเสือเพื่อเข้าฉากถ่ายทำภาพยนต์นั้น
ต่อมานเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชุดเหยี่ยวดง เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ตรวจยึดเสือโคร่งจากนายโยธินผู้ครอบครอง ซึ่งจากการตรวจสอบลูกเสือโคร่ ไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครองของทางราชการและไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (เลขไมโครชิป)
ทางเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จึงได้ตรวจยึดสัตว์ป่าของกลาง พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับนายโยธิน มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2562 มาตรา 15 ฐานปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง(ลูกเสือโคร่ง)พ้นจากการดูแลของตน มาตรา 17 ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง(ลูกเสือโคร่ง) โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 วรรคหนึ่ง ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง(ลูกสิงโต)โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 วรรคสอง ฐานไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขแจ้งการรับแจ้งตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางคล้า จ.ฉะเชิงเทราเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขออนุมัติพนักงานสอบสวน นำลูกเสือโคร่งส่งมอบให้ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก) ต่อไป
โดยลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งชื่อให้ว่าน้อง "นีน่า" .
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรีได้รับมอบ ลูกเสือโคร่ง เพศเมีย 1 ตัว
นอกจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังเตรียม เรียกค่าดูแลลูกเสือโคร่งจากผู้ระบุว่าเป็นเจ้าของเสือ โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯต้องดูแลเสือโคร่งมากกว่า 10 ปี เป็นเงิน 1,394000 บาท ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการดำเนินการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าและค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่า พ.ศ.2565