รัฐบาล ย้ำเตือน “ลูกหนี้-เจ้าหนี้” รีบลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบก่อน 31 พ.ค.นี้

รัฐบาล ย้ำเตือน “ลูกหนี้-เจ้าหนี้” รีบลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบก่อน 31 พ.ค.นี้

View icon 120
วันที่ 23 พ.ค. 2567 | 09.56 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ยอดแก้หนี้นอกระบบ ลดมูลหนี้แล้ว 1,190.970 ล้านบาท “รัฐบาล” เตือนใครต้องการความช่วยเหลือ รีบลงทะเบียนก่อน 31 พ.ค.นี้

วันนี้ (23พ.ค.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชน ที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล พบว่า มีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 คนแล้ว มีลูกหนี้ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 144,998 คน มูลหนี้ลดลงรวม 1,190.970 ล้านบาท โดยยังคงเหลืออีก 8,402 คนที่อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพบปะพูดคุยกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จครบทั้งกระบวนการต่อไป นอกจากนี้ มีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้ มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี จำนวน 456 คดี

นายคารม ย้ำเตือน ให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการแก้ไขหนี้ ขอให้รีบมาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการแก้ไขหนี้ตามมาตรการของรัฐ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 นี้ เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐและสามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้อย่างครบถ้วน รวดเร็ว และเป็นธรรม รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกหนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ในส่วนของเจ้าหนี้ หากไม่มาลงทะเบียนภายในเวลาที่กำหนด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

“รัฐบาล โดยกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เร่งรัดให้เจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ย พร้อมดำเนินการประชาสัมพันธ์ รณรงค์สร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ และต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ สามารถติดต่อผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือ ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่บริการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน” นายคารม กล่าว