ล่าทรัพย์ข้ามปี ยึด 2 พันล้าน เครือข่าย “ใหม่โลจิสติกส์” ใช้บริษัทขนส่งพัสดุบังหน้าขนเคตามีน มีโกดังหลายแห่งในพื้นที่แม่สายเป็นจุดพักคอย ใช้ชื่อคนตายเป็นผู้รับพัสดุ เปิดร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าฟอกเงิน
วันนี้ (24 พ.ค.67) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดผยถึงปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย ปิดล้อมตรวจค้นเครือข่าย “ใหม่ Logistics” ซึ่งลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านบริษัทขนส่งสินค้า ขนคีตามีน 300 กิโลกรัม ผู้ต้องหาใช้ชื่อบุคคลที่เสียชีวิตแล้วเป็นผู้รับพัสดุ นัดหมายกับพนักงานส่งสินค้าตามถนนสาธารณะ กระทั่งพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ต้องหาได้แจ้งเปลี่ยนสถานที่จัดส่งพัสดุ จาก จ.ปทุมธานี เป็น จ.พิษณุโลก ในวันที่ 28 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ได้แฝงตัวเข้าจับกุม 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า 4 ล้านเม็ด ซุกซ่อนมาในกล่องน้ำผลไม้ 27 กล่อง ศาลอนุมัติหมายจับเครือข่ายนี้เพิ่มเติม 4 คน หนึ่งในนั้นคือ ด.ต.ใหม่ อดีตข้าราชการตำรวจ สังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งถูกจับกุมตัวตามหมายจับช่วงกลางปี 66 และ อีก 2 ราย จับกุมได้ช่วงต้นปี 67 เหลือหลบหนีอีก 1 ราย
สำหรับ ด.ต.ใหม่ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการคนสำคัญ ทำหน้าที่จัดส่งยาเสพติดมาแล้วถึง 1,096 กล่อง และทุกครั้งจะใช้ชื่อหญิงสาวคนสนิท เป็นผู้จัดส่งพัสดุ โดยการลำเลียงยาเสพติด มีนายออง ตี๋ อ้า สัญชาติเมียนมา เป็นหัวหน้ากลุ่มโพยก๊วนคนสำคัญในพื้นที่ท่าขี้เหล็ก ทำหน้าที่จัดส่งยาเสพติดเข้ามายังประเทศไทยให้ นายจันทร์ กลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง ทำหน้าที่รับยาเสพติดโดยใช้บริษัทรับส่งสินค้า ในตลาดสายลมจอย อ.แม่สาย ที่เปิดเป็นธุรกิจบังหน้า เพื่อรับยาเสพติด และมีนายชาย ผู้กว้างขวางและเป็นเจ้าของโกดังหลายแห่ง ในพื้นที่ อ.แม่สาย ทำหน้าที่ประสานนำยาเสพติดมาพักคอยไว้ที่โกดัง
เครือข่ายนี้ มีธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องโยงใยถึงกัน ปี 2564 – 2566 มีเงินหมุนเวียนในบัญชีผู้เกี่ยวข้อง 15 บัญชี มากกว่า 2,200 ล้านบาท เมื่อนำมาคำนวณเป็นมูลค่าจากการค้ายาเสพติด เสนอให้ศาลมีคำสั่งริบทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 84 พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 1,413 ล้านบาท โดยเครือข่ายนี้จะนำเงินจากการค้ายาเสพติด แปลงไปเป็นอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นๆ โดยให้เครือญาติเป็นผู้ถือครอง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 – 21 พ.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.2 เปิดปฏิบัติการปูพรมปิดล้อมตรวจค้น เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินในพื้นที่ 8 จังหวัด 35 จุด ยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิ โฉนดที่ดิน 55 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 18 หลัง รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 16 คัน รถแบ็กโฮ แทรกเตอร์ รถเกี่ยวข้าว รวม 6 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก และเครื่องใช้ไฟฟ้า 3,000 รายการ ซึ่งเครือข่ายได้ฟอกเงินโดยการเปิดเป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า รวม 3,097 รายการ มูลค่า 2,034,491,309 บาท