รวบเครือข่ายหลอกขายตั๋วเครื่องบิน เหยื่อสูญเงินเกือบ 1.2 ล้านบาท

รวบเครือข่ายหลอกขายตั๋วเครื่องบิน เหยื่อสูญเงินเกือบ 1.2 ล้านบาท

View icon 102
วันที่ 24 พ.ค. 2567 | 17.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจไซเบอร์ รวบเครือข่ายหลอกขายตั๋วเครื่องบิน ลวงเหยื่อตั้งแอปดูดเงินสูญเกือบ 1.2 ล้านบาท

วันนี้ (24 พ.ค.67) พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.พรพิลัย อายุ 35 ปี โดยจับกุมได้ที่บ้านพักนพื้นที่ ม.3 ต.ท่าโพธิ์ศรี อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และนายสมคิด อายุ 51 ปี ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.8 ต.ทองหลาง อ.บ้านนา จ.นครนายก ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 ผู้เสียหายมีแผนจะเดินทางไปประเทศแคนาดา จึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือเข้าอินเทอร์เน็ตค้นหาตั๋วโดยสารสายการบิน ต่อมาผู้เสียหายพบโฆษณาโปรโมชันตั๋วลดราคาของการบินไทย จึงได้คลิกเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ปลอม ซึ่งระบบให้แอดไลน์ “Thai Airway” เพื่อสมัครโปรดังกล่าว ต่อมามิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหายผ่านไลน์แล้วแจ้งว่า มีตั๋วไปกลับฟรี 1 สิทธิต่อ 1 ท่าน และมีจำนวนจำกัดเพียง 100 สิทธิเท่านั้น หากต้องการโปรโมชันดังกล่าวต้องติดตั้งแอปฯ และสมัครเป็นสมาชิก

ผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพจึงส่งลิงก์แอปการบินไทยปลอมให้ผู้เสียหายติดตั้งและกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และให้ตั้งรหัสผ่านของแอปพร้อมกับยืนยันตนเองโดยกรอกข้อมูลตามที่คนร้ายบอก และให้ผู้เสียหายสแกนใบหน้า จำนวน 2 ครั้ง ผู้เสียหายไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเข้าใจว่ากำลังสนทนากับพนักงานของสายการบิน หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนเรียบร้อย มิจฉาชีพแจ้งให้รอรับบัตรสมาชิกตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ ผู้เสียหายจึงปิดแอปและทำงานตามปกติ ต่อมาประมาณ 23.00 น. ผู้เสียหายได้หยิบโทรศัพท์มาดู พบว่ามีเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปจำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,191,971 บาท ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน

โดยภายหลังจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง