จากเหตุดินถล่มในปาปัวนิวกินี ทางศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติของปาปัวนิวกินีคาดว่า มีผู้เสียชีวิตถูกฝังอยู่ใต้ซากดินถล่มมากกว่า 2,000 คน ท่ามกลางความหวังในการค้นหาผู้รอดชีวิตที่ริบหรี่ และเร่งอพยพชาวบ้านเกือบ 8,000 คน หวั่นเกิดดินถล่มซ้ำ
วันนี้ (28 พ.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติของปาปัวนิวกินีรายงานต่อสหประชาชาติว่า จากเหตุดินถล่มในหมู่บ้านห่างไกลที่จังหวัดเอนกา (Enga) ทางตอนเหนือของประเทศปาปัวนิวกินี เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ (24 พ.ค. 67) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่ามีประชาชนกว่า 2,000 คน ถูกฝังทั้งเป็นอยู่ใต้ซากดินและหินที่ถล่มลงมา ซึ่งจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการค้นหา ทำให้ความหวังในการค้นหาผู้รอดชีวิตริบหรี่ลง
ก่อนหน้านี้ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ปาปัวนิวกินี) ของสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า อาจมีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มมากกว่า 670 คน และบ้านเรือนจมอยู่ใต้ดินถล่มกว่า 150 หลัง
นอกจากปฏิบัติการค้นหาของเจ้าหน้าที่ ชาวเมืองก็ยังคงเดินหน้าช่วยกันใช้พลั่วและมือเปล่าค้นหาผู้สูญหายต่อไป โดยทางการท้องถิ่นระบุว่า หลังค้นหามาแล้ว 72 ชั่วโมง พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเพียง 5 คน
ขณะที่ชาวบ้านคนหนึ่งเผยกับสำนักข่าว "รอยเตอร์ส" ว่า สมาชิกครอบครัว 18 คน ของเขาถูกฝังอยู่ใต้ดิน และเขาไม่สามารถกู้ร่างของคนในครอบครัวขึ้นมาได้ จึงทำได้เพียงแต่ยืนหมดหวัง
ทั้งนี้ ทางการปาปัวนิวกินีกำลังเร่งอพยพประชาชนประมาณ 7,900 คน ออกจากหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุดินถล่มรอบแรก หลังมีความกังวลว่าอาจเกิดเหตุถล่มลงมาซ้ำอีกครั้ง
