เครือข่ายกัญชาฯ นัดชุมนุมใหญ่ 9 มิ.ย. ขู่ยืดเยื้อจนกว่ารัฐบาลจะยอมรับเงื่อนไขใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์กำหนดสถานะกัญชากลุ่มผู้ปลูกจ่อฟ้องศาลปกครอง หากรัฐนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
วันนี้ (28 พ.ค.67) เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำโดย นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ มล.รุ่งคุณ กิติยากร รวมตัวกันที่อาคาร กพร. ทำเนียบรัฐบาล อ่านแถลงการณ์กำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 9 มิ.ย.67 ประกาศเตรียมฟ้องศาลปกครอง หากรัฐบาลนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เพื่อทวงสิทธิกัญชาสู่มือประชาชน ทั้งนี้ ไม่มีใครปฏิเสธการควบคุมกัญชาแต่จะควบคุมโดยการใช้กฎหมายยาเสพติดหรือกฎหมายเฉพาะในระดับพระราชบัญญัติ จะต้องทำการวิเคราะห์ว่าเครื่องมือใดที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการใช้และการควบคุม หากจัดให้กัญชาอยู่ในยาเสพติด จะทำให้ประชาชนซื้อกัญชาในราคาแพง เป็นกัญชาที่ผลิตโดยบริษัทยา เพราะสามารถทำตามเงื่อนไขที่รัฐวางไว้ได้ ซึ่งในประเทศอังกฤษพบว่า กัญชาที่ถูกจ่ายโดยแพทย์ทำให้ประชาชนเข้าถึงไม่ได้
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เครือข่ายเรียกร้องคือ ขอให้ใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยเป็นเงื่อนไขสำคัญในการกำหนดสถานะของพืชกัญชา ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคประชาชนกับภาครัฐ เพื่อวิจัยผลที่เกิดขึ้นหลังการปลดล็อกกัญชา หากผลการวิจัยพบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กัญชาก่อความร้ายแรงกับสังคม ไม่ก่อประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสุขภาพ ก็ให้นำกัญชาไปควบคุมโดยกฎหมายยาเสพติด แต่หากกัญชาใช้รักษาโรคจนหายขาด เป็นประโยชน์ต่อภาวะทางสุขภาพของประชาชน ก็ให้ควบคุมโดยกฎหมายระดับ พ.ร.บ.
“การกำหนดนโยบายสาธารณะจะต้องยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง ประชาชนสูญเสียมามาก ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ ธุรกิจเบียร์ตกแก่ 2 ตระกูล ควบคุมมูลค่าหลายแสนล้านต่อปี กัญชาเป็นพืชที่มีมูลค่านับแสนล้านและเป็นสิ่งที่อยู่ในเป้าหมายการควบคุม หากพรรคเพื่อไทยยังยืนยันนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด เราจะมาร่วมกันชุมนุมตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.67 เป็นต้นไป จนกว่ารัฐบาลจะยินยอมใช้กระบวนการที่ถูกต้องในการกำหนดอนาคตกัญชา และจะถือโอกาสเปิดเผยธุรกิจของบริษัทยาที่มีกับกระทรวงสาธารณสุข ธุรกิจเหล้าเบียร์ที่กลไกรัฐไปรับใช้กลุ่มทุน และใครเป็นผู้ถือมูลค่าในธุรกิจกัญชาและได้ประโยชน์จากเกมการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด” นายประสิทธิ์ชัย กล่าวย้ำ