กรมศิลปากรโคราช ตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ 2 ร่าง อายุประมาณ 1,500 -2,500 ปี คาดมีชีวิตอยู่ก่อนการก่อตั้งเมืองนครราชสีมา และคาดว่าเมืองนครราชสีมาเมืออดีตเป็นบึงขนาดใหญ่ เตรียมเก็บชั้นดินนำไปตรวจสอบ
วันนี้ (30 พ.ค. 67) นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมด้วย นายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) และนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ และซากภาชนะดินเผาที่ถูกขุดค้นพบภายในสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (หลังเก่า) ซึ่งอยู่ติดกับคูเมืองในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยที่ดังกล่าวเป็นที่ดำเนินงานการปรับปรุงภูมิทัศน์เป็นสวนสาธารณะ ซึ่งต้องดำเนินการทางโบราณคดีก่อน เนื่องจากพื้นที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์
ทาง นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ขุดตามแนวกำแพงเมืองเก่าระดับความลึก 180 เซนติเมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ 2 ร่าง ไม่ทราบเพศ เนื่องจากกระดูกเชิงกรานไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่สามารถระบุเพศได้ โดยโครงกระดูกแรก พบอยู่ในลักษณะนอนหงายเหยียดยาวหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ส่วนโครงกระดูกที่ 2 ลักษณะกะโหลกศีรษะถูกตัดวางอยู่บริเวณลำตัวคาดเป็นโครงกระดูกเด็ก นอกจากนี้ยังมีเศษเครื่องปั้นดินเผาลายเชือกทาบ เศษกระเบื้อง กระดูกสัตว์ รวมทั้งภาชนะแบบพิมายดำวางอยู่รอบโครงกระดูก
โดยโครงกระดูกทั้ง 2 ร่าง น่าจะเป็นการฝังศพของคนสมัยโบราณ และมีอายุประมาณ 1,500-2,500 ปี คาดว่าอาศัยอยู่ก่อนการก่อตั้งเมืองนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการขุดเพิ่มเติมและนำดินในบริเวณดังกล่าวไปตรวจสอบหาค่าทางวิทยาศาสตร์ และเพื่อตรวจสอบว่าดินในพื้นที่นั้นได้สัมผัสแสงอาทิตย์ครั้งล่าสุดเมื่อใด
ทั้งนี้ คาดว่าในอดีตพื้นที่ดังกล่าว น่าจะเป็นพื้นที่ฝังศพขนาดใหญ่ และเมืองนครราชสีมาในช่วง 1,500-2,500 ปีน่าจะเป็นบึงขนาดใหญ่ และมีชุมชนตั้งอาศัยอยู่รอบบึงเป็นจำนวนมาก ก่อนจะมีการก่อตั้งเมืองนครราชสีมา
