มอบตัวแล้ว ซ้อแทน โพสต์รูปเปลือยประจานลูกหนี้

View icon 136
วันที่ 3 มิ.ย. 2567 | 16.41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ซ้อแทน เจ้าแม่เงินกู้สุดแสบให้ลูกหนี้ถ่ายรูปเปลือยส่งให้ ถ้าลูกหนี้คนไหนผิดชำระจะโพสต์ภาพเปลือยประจาน ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ซ้อแทน พร้อมสามี ย่องเข้ามอบตัวแล้ว

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว3 โพสต์แฉเรื่องราวของ ซ้อแทน เจ้าหนี้เงินกู้ประหลาด ที่มีเงื่อนไขการขอกู้เงินที่สุดประหลาด ด้วยการให้ลูกหนี้ถ่ายรูปเปลือยมาให้เจ้าหนี้เก็บไว้ กรณีเป็นผู้ชายให้ถ่ายรูปเปลือยท่อนล่าง คู่กับบัตรประชาชน และต้องถ่ายให้เห็นหน้าผู้กู้ชัดเจน ส่วนผู้กู้ที่เป็นผู้หญิง ให้ถ่ายรูปคู่บัตรประชาชน เปลือยท่อนบนให้เห็นหน้าอก และผู้ที่ขอกู้ต้องเขียนหนังสือยินยอมให้ ซ้อแทน ส่งรูปเปลือยประจานได้หากผิดนัดชำระ จนมีเหยื่อเข้าแจ้งความในพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา

จนเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ในจังหวัดปราจีนบุรี สนธิกำลังนำหมายค้นไปตรวจค้นบ้านเจ้าหนี้ คือ น.ส.วราภรณ์ หรือ ซ้อแทน อายุ 31 ปี แต่ไม่สามารถตรวจค้นได้ เพราะไม่พบเจ้าบ้าน ประตูเข้าบ้านมีทางเดียวถูกล็อกด้วยแม่กุญแจ

กระทั่งเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา นางสาววราภรณ์ พร้อมสามี เดินทางมาติดต่อขอมอบตัวกับ พันตำรวจเอก มงคล โท้เป๋า ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ภายหลังการสอบสวนเสร็จ นางสาววราภรณ์ พร้อมสามี กล่าวว่า หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

ขณะที่ พันตำรวจเอก มงคล เปิดเผยว่า นางสาววราภรณ์ พร้อมสามี เดินทางมาติดต่อขอมอบตัวเอง เบื้องต้น ทราบว่าช่วงเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นบ้าน ทั้งคู่ไปทำบุญที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ เบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ จึงตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ที่ใช้บันทึกข้อมูลการกู้ยืมเงิน นำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินการต่อไป

เบื้องต้น แจ้งข้อหา ปล่อยเงินกู้นอกระบบ, ทวงถามหนี้โดยการข่มขู่, ทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม และนำภาพโป๊ เปลือย ของบุคคลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ก่อนนำตัวฝากขังวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) สำหรับพื้นที่ สภ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ไม่มีผู้เสียหายเป็นลูกหนี้ของ นางสาววราภรณ์ มีแต่นอกจังหวัด
 
ด้าน ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดเผยว่า ในทางกฎหมายการกระทำแบบนี้ถือว่า การเป็นหนี้โมฆะ และถ้าการทำสัญญากู้เงินในลักษณะนี้ ให้ถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ เจ้าหนี้ไม่สามารถฟ้องร้องเอาเงินคืนได้ และอาจจะโดนข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ข้อตกลงในลักษณะพิสดารแบบนี้ เจ้าหนี้อาจจะติดคุกเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง