จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ 3 มิ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว น.ส.วรรณิภา หรือมด ภรรยาเสี่ยต้น เนื่องจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า น.ส.วรรณิภา หรือมด ทำหน้าที่จ้างวานพยายามฆ่า นายพิชิต หรือต้น สาเหตุเพราะโกรธเคืองเพราะถูกสามีนอกใจ และมีการทะเลาะกันหลายครั้งจนถึงขั้นมีการทำร้ายร่างกาย
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รวบเมีย “เสี่ยต้น“ จ้างวานลอบยิงผัวเพราะถูกนอกใจ
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ เผยว่า คดีนี้ทำเป็นกระบวนการ เริ่มจากภรรยา พบเส้นทางการเงินโอนไปยังผู้ต้องหาอีก 3 คน และซักทอดไปยังภรรยาเสี่ยต้น ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ รวมไปถึงภาพกล้องวงจรปิด การชี้เป้า และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ที่สอดคล้องกับพยาน
ส่วนคดีที่จ.มหาสารคาม ทีมสืบสวนของตำรวจภาค 4 มีหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงกัน เชื่อว่า คนชี้เป้าเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ต้องพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผลชันสูตรยังไม่ออก ทำให้ยังไม่มีความชัดเจนว่าในร่างกายเสี่ยต้นมีสารอะไรบ้าง ยังคงต้องรอผล
สาเหตุคิดว่า เป็นเรื่องชู้สาวและ เจ็บช้ำน้ำใจจากคำพูดของเสี่ยต้น มีปากเสียงกันภายในครอบครัว สำหรับเรื่องเงินประกัน ทางประกันจะต้องพิจารณาว่าจะยกเลิกประกันไหม เนื่องจากเป็นคดีจ้างวานฆ่า รวมไปถึงชั้นศาลตามมาตราพาณิชย์ 17 และ 13 ถอดภรรยาออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. ทางญาติจะไปยืนการคัดคาดการประกันตัวที่ สน.วังทองหลาง และ ศาลอาญา รัชดา
ด้านพระพ่อวสันต์ (พ่อเสี่ยต้น) เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้กรรมเป็นผู้ตัดสิน ตอนรู้ว่าเสี่ยต้นตาย รู้สึกใจหาย เพราะเป็นคนไปส่งที่สนามบิน ก่อนไปยังบอกให้พาตำรวจไปด้วยแต่เสี่ยต้นไม่ฟัง ที่ผ่านมา เสี่ยต้นเป็นคนดูแลพระพ่อ เป็นคนดี ทำอะไรไม่เคยขัด เป็นคนไม่อยากไปมีปัญหากับใคร ขนาดถูกฟันที่พัทยายังไม่เอาเรื่อง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ คงเป็นเวรกรรมของเขา ก็ขอให้จบลงที่ตรงนี้
ส่วนภรรยาเสี่ยต้น เวลาไปเยี่ยมบ้านไม่เคยเจอ แต่รู้ว่าเสี่ยต้นรักเมีย ตอนนี้คิดอย่างเดียวคือ คนที่เขารักเป็นคนทำ ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นคนใกล้ชิดแน่ ๆ ที่เป็นตัวการ เพราะไม่มีสาเหตุอื่นที่เขามาเกี่ยวพันในคดีจ้างวานฆ่า
ส่วนรื่องการเผาร่างเสี่ยต้น ตอนไปจุดธูปไหวศพ ลูกสะใภ้ได้มานั่งพูดข้าง ๆ เสนอว่า ถ้าไม่เอาศพไปผ่า จะได้เงินค่าประกันและจะแบ่งให้ 2 ล้าน ซึ่งตนไม่เอาเพราะบวชอยู่เรื่องเงินยกให้แม่ไปละกัน หรือไม่ก็สร้างกุฎิ 1 หลังถวายวัด ซึ่งตอนนั้นทางนั้นเสนอมาก็เพียงรับฟังไว้เท่านั้นเอง
ด้านนางสาวปภาพินท์ แม่เสี่ยต้น บอกว่า ถ้ามีโอกาสได้เจอหน้าลูกสะใภ้ อยากถามว่า มาทำลูกของแม่ทำไม เงินทองสมบัติทั้งหมดก็ได้ไปแล้วทำไมยังต้องมาเอาชีวิตเขาไปอีก เชื่อว่าคดีจ้างวานฆ่าที่สน.วังทองหลางกับคดีที่จ.มหาสารคาม น่าจะเชื่อมโยงกัน เพราะจะเอาชีวิตเสี่ยต้นที่กทม.ไม่สำเร็จ จึงไปก่อเหตุอีกครั้งที่จ.มหาสารคาม แต่ตนไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกว่า มีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือเรื่องของทรัพย์สินหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ครอบครัวของลูกสะใภ้ก็ไม่ได้มีฐานะมาตั้งแต่ต้น มาเริ่มมีฐานะหลังแต่งงาน โดยพระพ่อช่วยเหลือในเรื่องเงิน ส่วนนิสัยใจคอของลูกสะใภ้ปกติจะเรียบร้อย เป็นคนไม่ค่อยพูด ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันสองคนกับเสี่ยต้นตลอด อย่างไรก็ตามตนไม่ขอฝากถึงอะไรถึงลูกชายเพราะเชื่อว่าเสี่ยต้นรับรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว
ด้าน นางสาวณัฐปภัษร์ หรือ เจ น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนว่าการเสียชีวิตของพี่ชายผิดปกติคือ ทราบว่าพี่สะใภ้โทรมาหาพี่ชายก่อนโดนลอบยิง ทั้งที่ตอนนั้นแยกกันอยู่ จากนั้นวันที่ 15 ตนได้ไปส่งพี่ชาย และวันที่ 16 พี่ชายได้เสียชีวิต ตนทราบข่าวจึงรู้สึกโกรธแค้นมาก
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างพี่ชายและพี่สะใภ้ ทราบว่าทั้ง 2 ต่างคนต่างมีกิ๊ก ได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจหมดแล้ว และตำรวจไปสืบต่อจนทราบว่าเป็นเรื่องจริง โดยกิ๊กฝั่งพี่ชายเป็นเด็กคาราโอเกะ ไม่ได้อยู่กินกัน ไม่เคยพาเข้าบ้านมาเจอญาติพี่น้อง
ขณะที่กิ๊กของฝ่ายพี่สะใภ้ ได้รับข้อมูลมาอีกต่อ ส่งให้ทางตำรวจแล้วไม่สามารถเปิดเผยได้ และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนไม่สามารถไปร่วมงานศพที่จังหวัดมหาสารคามได้ เพราะต้องอยู่หาข้อมูลในโซเชียลส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน หมวย เพื่อนสนิทของมดและเสี่ยต้น กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่สามารถทำคนเดียวได้ คนผิดไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน เชื่อว่ามีคู่คิดทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ตัวละครสำคัญตนขอไปให้การกับตำรวจและขอรอดูหลักฐานก่อน
สำหรับนิสัยใจคอของมด คิดว่า ไม่กล้าทำเรื่องนี้คนเดียว เต้องมีคนยุยงและเป็นคนที่สนิทใกล้ตัวกับมดมากพอที่จะมีอิทธิพลต่อความคิด เพราะตัวของมดเป็นคนไม่ได้รู้จักใครมากมาย เป็นผู้หญิงแต่ทำงาน เรื่องที่เกี่ยวกับอะไรที่ไม่ดี มักจะไม่ค่อยยุ่ง ส่วนการวางแผนเพื่อประสงค์ในเรื่องใดนั้น เสี่ยต้นเคยบอกว่า ถ้าตายไม่ห่วงแล้ว เพราะทำประกันไว้ วงเงิน 16 ล้านบาท
หมวย เพื่อนสนิทมดและเสี่ยต้น บอกอีกว่า เคยโทรสอบถามเรื่องเงินประกันกับมด แต่ มอ บอกว่า ไม่มีหรอก เงินที่เหลือเวียนมาใช้ไปหมดแล้ว จากนั้นจึงสืบไปที่บริษัทประกัน ก็พบว่ามีเงินจำนวนนี้อยู่จริง จึงสงสัยว่า มดโกหกทำไม เพราะตนทั้งรักทั้งไว้ใจ ทำไมถึงโกหกเรื่องเงิน
ส่วนชนวนเหตุที่ 2 คนแตกหักกัน ทราบว่า มดไปพบเสี่ยต้นที่ร้านคาราโอเกะ พร้อมกับเด็กในร้านเหล้า จึงมีการสอบถามกัน จากนั้นไม่นานเสี่ยต้นก็โดนยิง และเสี่ยต้นก็บอกกับตนเอง ว่า "สงสัยใครเป็นคนใกล้ชิดจ้างวานยิง" แต่ตนไม่ขอเปิดเผยชื่อ ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเป็นคนใกล้ชิดที่ถูกควบคุมตัวในขณะนี้หรือไม่ ขอให้รอการสอบสวนจากทางเจ้าที่
