เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมืองฟินิกซ์ ในรัฐแอริโซนา ของสหรัฐฯ เร่งจัดหาน้ำดื่มและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้ประชาชนได้คลายร้อน หลังจากอุณหภูมิภายในเมืองพุ่งสูงถึง 43 องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้
โดยผลกระทบจากอากาศร้อน ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องประกาศปิดเส้นทางเดินป่า อาทิ เส้นทางภูเขาคาเมลแบค (Camelback Mountain) และเส้นทางบริเวณยอดเขาปิเอสทีวา (Piestewa Peak) ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินป่ากลางแจ้งในช่วงอากาศอบอ้าว
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านสภาพอากาศท้องถิ่นคาดการณ์ว่า ฤดูร้อนปีนี้ ที่เมืองฟินิกซ์อาจต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงอีกครั้ง ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนถึง 645 คน
ส่วนในเมืองอื่น ๆ ทั่วรัฐแอริโซนา ยังคงตกอยู่ภายใต้ประกาศเตือนภัยอากาศร้อนจัดในระดับที่ 4 ซึ่งหมายถึงเป็นระดับอันตรายที่อาจคุกคามถึงชีวิต หากไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังในการใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศร้อน
ขณะเดียวกันที่ หุบเขามรณะ หรือ เดด วัลเลย์ (Death Valley) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่ร้อนที่สุดในโลก พบนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางมาถ่ายภาพกับป้ายบอกอุณหภูมิกันแล้ว โดยอุณหภูมิที่วัดได้เมื่อวานนี้สูงถึง 48 องศาเซลเซียส แม้จะยังอยู่ในช่วงต้นของฤดูร้อนก็ตาม ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่เคยเจออากาศที่ร้อนเท่ากับที่นี่ และมันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในเตาอบ แต่ข้อดีคือพวกเขาจะได้ผิวแทนในทันที โดยไม่ต้องไปนอนอาบแดดนานหลายชั่วโมง
