สามีป้าเพ็ญ เผย เมียโดดวีซ่าท่องเที่ยว ไปเป็นผีน้อยสู้ชีวิตทำงานเกษตรในเกาหลี 11 ปี เก็บเงินสร้างบ้าน ก่อนจะถูกจับ ขณะไลฟ์ให้ชาวเน็ตช่วยตอบคำถามว่ารถบัสที่มาจอดหน้าร้าน คือ รถบัสรับคนงาน หรือ รถบัสของ ตม.เกาหลีใต้ วอนรัฐบาลช่วยพาเมียกลับบ้านอย่างปลอดภัย
7 มิ.ย.67 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่งไลฟ์บรรยากาศสด ที่หน้าร้านโชว์ห่วยของนายจ้างในตลาดจวม เมืองฮวาซอง จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากเห็นรถบัสต้องสงสัย จอดอยู่หน้าร้านตั้งแต่เช้านานผิดปกติ โดยไม่รู้ว่าเป็นรถรับคนงาน หรือรถของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประเทศเกาหลีใต้ จึงคว้าโทรศัพท์มือถือเดินออกไปหน้าร้าน ตั้งกล้องไลฟ์ ให้เห็นรถบัสอยู่ระยะหนึ่ง โดยป้าเพ็ญถามย้ำคนที่เข้ามาดูไลฟ์อย่างใจเย็นว่าคือ รถรับคนงาน หรือรถของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และไม่มีท่าทีตื่นตระหนก หรือหลบหนี สักพักมีผู้ชมในไลฟ์สังเกตุป้ายทะเบียนรถ คือ หมายเลข 1972 ก่อนเตือนป้าเพ็ญให้รีบหลบหนี เพราะเป็นรถของ ตม. ก่อนถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ ป้าเพ็ญ อายุ 54 ปี ในพื้นที่ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พบกับสามีของป้าเพ็ญ ที่เพิ่งกลับมาจากไปรับจ้างกรีดยาง และกำลังมาดูความเรียบร้อยบ้านของป้าเพ็ญ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างไปประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ เป็นโครงบ้านปูน 2 ชั้น ปลูกสร้างอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2 งาน หลังจากป้าเพ็ญทำงานทยอยส่งเงินมาให้ลูกสาวที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด และมอบหมายให้พ่อเป็นคนดูแลช่างรับเหมาดำเนินการก่อสร้างบ้านมาได้ประมาณ 1 ปี
สามีของป้าเพ็ญ เล่าว่า ตนเองทราบข่าวแล้วว่า ภรรยา ถูก ตม.ประเทศเกาหลีใต้ จับกุมหลังจากไปทำงานได้ 11 ปี ซึ่ง ภรรยาได้เดินทางไปวีซ่านักท่องเที่ยว แล้วหลบหนีไปทำงานเกษตร ไม่รู้จักกับใครที่นั่น และหนีทัวร์ท่องเที่ยวหนีวีซ่า แบบไปตายเอาดาบหน้า เพราะฐานะบ้านทางยากจน ตนเองมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ขณะนี้ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ก่อนเดินทางไปประเทศเกาหลี ตนและภรรยามีความจำเป็นต้องจดทะเบียนอย่ากัน ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่จำเป็น แต่ก็ไม่ได้ตัดขาดจากกัน ยังรักกันเหมือนเดิม ปัจจุบันก็ติดต่อกันอยู่ไม่ขาด ส่วนตนก็ดูแลครอบครัวอยู่ที่บ้าน เมื่อภรรยาไปเป็นผีน้อยในเกาหลีได้ไม่นาน พ่อแม่ของภรรยาจนก็เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่
”จากเวลาที่ห่างกันถึง 11 ปี บางวันก็ฝันเห็นกัน มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะตนรักและคิดถึงอยู่ทุกวัน ตนฝากถึงภรรยา เมื่อเกมส์ที่โน่นมันจบลง ก็ไม่ต้องเสียใจ กลับมาทำงานรับจ้างกรีดยาง ทำไร่ ทำนา ทำสวนอยู่ที่บ้านเมืองเรา ก็พออยู่ได้ บ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ไม่ต้องน้อยใจ หากอยากกลับไปสู้ชีวิต หรือไปทำงานกับนายจ้างเก่าที่ประเทศเกาหลีอย่างถูกต้อง ตนก็ไม่ห้ามและตามใจอยู่แล้ว เพราะมันบังคับกันไม่ได้ เนื่องจากภรรยาตนเป็นคนสู้ชีวิต และเป็นคนขยันทำมาหากิน ที่ไปเป็นผีน้อย หรือไปเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ก็เพราะความยากจน อยากมีบ้านมีรถเหมือนกับคนอื่นเขา ยอมรับว่าภรรยาตนเป็นคนเก่งมาก ไม่ต้องเสียใจนะเธอ กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ที่บ้าน อนาคตข้างหน้าค่อยว่ากัน สู้ชีวิตกันต่อไป ฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยภรรยาของตนกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยด้วย เพราะตนเป็นห่วงมาก”
ด้าน ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี เผยว่า ป้าเพ็ญ ที่ถูก ตม.ประเทศเกาหลีใต้เข้าจับกุมตัว หลังลักลอบเข้าเมืองทำงานโดยผิดกฎหมายมานับ 10 ปี ทางกรมจัดหางาน และกระทรวงแรงงาน ไม่มีข้อมูลที่จะดำเนินการช่วยหลือ หรือประสานการช่วยเหลือไปยังประเทศเกาหลีใต้ได้ เพราะไปแบบผิดกฎหมาย และต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายประเทศเกาหลีใต้ด้วย ก่อนจะถูกพลักดันหรือส่งตัวกลับประเทศไทย ในส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศ และสถานทูตไทยประจำประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้ประสานงาน ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้ต่อไป