สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ไม่ต้องเดากันแล้ว ว่าใครคือนักร้องเสียงนุ่ม ฟ้องคนใกล้ชิด "หนุ่ม กะลา" ได้แถลงข่าว อ้างภรรยายักยอกเงิน 66 ล้าน ซึ่งเป็นเงินในบัญชีบริษัท เจ้าตัวบอกงง เงินโอนเข้าบัญชีภรรยาได้อย่างไร
หนุ่ม กะลา เปิดใจ ฟ้อง ภรรยา ยักยอกเงิน 66 ล้านบาท
หนุ่ม กะลา อ้างว่า ถูกคนใกล้ชิด (ภรรยา) โอนเงินรวม 452 ครั้ง เป็นเงินกว่า 66 ล้านบาท เข้าบัญชีส่วนตัวโดยทุจริต
ทนายเดชา ยืนยันว่า หนุ่ม กะลา มีหลักฐานชัดเจน เเละจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รวมถึงดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำลายชื่อเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย หรือออกรายการทีวีต่าง ๆ ด้วย
ไม่ปล่อยให้รอนาน หนุ่ม กะลา พร้อมทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ออกมาแถลงเปิดใจว่า จริง ๆ แล้วจะบวช เพราะเหนื่อยมาก แต่เริ่มมีข่าวออกมาว่าจะบวช เพราะหนีไปอยู่กับเมียน้อย เป็นกระแสแรง นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจ เรื่องเลิกรากัน 9 ปีที่ผ่านมา เงินหายจากบัญชีกว่า 66 ล้านบาท พอตรวจสอบ Statement เงินเข้าบัญชีภรรยาหมด พอพบความผิดปกติ จึงไปเช็ก Statement ทางมือถือคร่าว ๆ เห็นว่าเงินโอนเข้าบัญชีภรรยาหลายครั้ง
ทั้งที่ตนเองเป็นกรรมการ และต้องเซ็นเพื่อเบิกเงิน ตนเองเป็นคนเดียวเท่านั้น ถึงจะเบิกเงินได้ แต่คำถามที่สงสัยคือ ทำไมตนเองยังไม่ได้เซ็น แล้วเงินถึงออกไปบัญชีภรรยาได้ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นตอนที่มีประเด็นข่าวมือที่ 3 แต่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เป็นวงกะลา จนมาเป็นนักร้องเดี่ยว 9-10 ปี สุดท้ายเหลือเงินในบัญชี 200,000-300,000 บาท ที่ผ่านมาไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเงิน เพราะเป็นสามีภรรยา สำหรับการฟ้องยักยอกทรัพย์ มันคือขั้นตอนที่เขาจะต้องชี้แจงว่าเงินไปไหน
ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ระบุว่า เหตุที่ไม่ฟ้องหย่าแล้วแบ่งสินสมรส เพราะไม่มีสินสมรส ตามประมวลกฎหมาย คือ สินสมรสถูกจำหน่ายไปโดยคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง จึงไม่สามารถฟ้องหย่า และแบ่งสินสมรสได้ ต้องใช้คดีอาญา เรื่องยักยอกทรัพย์ของบริษัท ซึ่งเงินส่วนนี้คนละส่วนกับสินสมรส เนื่องจากโจทก์ที่ฟ้องเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ไม่ใช่ หนุ่ม กะลา ซึ่งเป็นเรื่องของนิติบุคคล
จูน โต้กลับ หนุ่ม กะลา แจงค่าใช้จ่าย ยักยอกทรัพย์ตรงไหน
ด้าน จูน เพ็ญชุลี ภรรยา หนุ่ม กะลา ก็ออกมาเคลื่อนไหวสวนกลับสามีทันที ชี้แจงมุมของตัวเอง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ ชี้แจงรายละเอียดเบื้องต้น เราเป็นคนรับเงินมา ก็เอามาจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยระบุการใช้จ่ายอย่างละเอียด รวมแล้วเดือนละประมาณ 300,000 บาท (ยังไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ ค่าเทอมลูก ค่ากินอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าประกันชีวิต ค่าประกันรถ ค่าไปเที่ยวต่างประเทศ ค่าบัตรเครดิตอีก) ตามที่สามีพูดเลยว่ารายจ่ายต่อเดือนประมาณ 700,000 บาท 2 ยอดนี้บวกกัน ลองคูณต่อปีว่ารายจ่ายจะเท่าไหร่ มีเอกสารหลักฐานตรวจสอบได้ทุกยอด ฝากไปถามก็แล้วกันว่าจะเอาเงินมาจากไหน ถ้าไม่ใช่จากบริษัทที่เปิดร่วมกับสามี
Statement ไม่โกหกตามที่สามีพูดเลย Statement บริษัทมี Statement ส่วนตัวก็มี ชี้แจงได้ว่าโอนออกไปจ่ายอะไรบ้าง ส่วนเงินเก็บก็ยังอยู่ ไว้ไปดูรายละเอียดกันที่ศาล คนเป็นเมีย ในฐานะคนทำบัญชี ดูแลบริษัท สั่งจ่ายไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทและครอบครัว แบบนี้หรือ คือ ยักยอก ทำแบบนี้มาตลอดเวลาหลายปี ทำไมถึงมาฟ้องตอนนี้
ซึ่งทาง หนุ่ม กะลา ก็ได้เข้ามาคอนเมนต์ว่า "ปีหนึ่งได้ 20 ล้าน ค่าใช่จ่าย 500,000x12 เดือน = 6 ล้าน ที่เหลือละจูน"
ด้านจูนเลยสวนกลับว่า "ไม่ต้องมาเถียงกันตรงนี้ ก็รอเราเอาหลักฐานมาประกบแล้วก็ตรวจเอาแล้วกัน ถ้าผิดจริง มีเจตนายักยอกจริง ก็ว่ากันไปตามนั้นเลย"
ส่วน ทนายพัฒน์ ทนายความของคุณจูน เพ็ญชุลี โพสต์ว่า "ผมถามเมียหลวงท่านนั้นมาตลอดว่า อยากฟ้องหย่าไหม? ไหวไหม? เธอไม่เคยตอบ และพยายามเบี่ยงประเด็นเสมอ ลึก ๆ คงเพื่อรักษาคำว่าครอบครัว แต่วันนี้เธอบอกว่า พี่หมดความอดทนแล้ว มันเกินไป"
หลายคนสงสัยว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองบริบูรณ์ 365 ที่หนุ่ม กะลา อ้างว่าถูกยักยอกเงินไปนั้น ประกอบกิจการเกี่ยวกับอะไร ตรวจสอบพบว่าจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
มีหนุ่ม กะลา ลงหุ้นด้วยเงินสด 990,000 บาท และนางสาวพนิตตา แสงสุวรรณ ลงหุ้นด้วยเงินสด 10,000 บาท
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประกอบกิจการให้บริการรับติดต่อประสานงานกับนักแสดง นักร้อง นางแบบ นายแบบ และงานบันเทิงทุกชนิด งบการเงินปีล่าสุด 2566 มีรายได้ประมาณ 21 ล้านบาท และกำไรกว่า 3 ล้านบาท
