อาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จัดพิธีบวชต้นกัญชา เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกทำลาย
9 มิ.ย.67 ที่มูลนิธิข้าวขวัญ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ได้จัดพิธีบวชต้นกัญชา โดยอาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) เปิดเผยว่าวันนี้ เป็นวันครบรอบ 2 ปีที่ ปลดล็อกกัญชา บางคนก็เรียกวันกัญชาไทย จึงถือเอาโอกาสนี้แสดงจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยในการเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีก เพราะกัญชาไม่ได้อันตรายเมื่อเทียบกับเหล้าบุหรี่
โดยยกตัวอย่างว่า เหล้าปีหนึ่งมีคนเสียชีวิตเกิน 60,000 คน บุหรี่เสียชีวิตเกิน 100,000 คน แต่ทั้งเหล้าและบุหรี่ตามกฎหมายไม่ใช่ยาเสพติดและจำหน่ายได้ในร้านสะดวกซื้อ จะเห็นได้ว่ามาตรการจัดการควบคุมเหล้าบุหรี่ที่เป็นสารเสพติดและอันตรายมากโดยใช้ พรบ.ควบคุมยังให้ขายได้ ทำไมกัญชาไม่ได้มีโทษ และยังมีประโยชน์ ถึงเอาเข้าไปเป็นยาเสพติด หากเป็นห่วงเยาวชน ก็ให้เอาพรบ.มาควบคุม เหมือนเหล้า บุหรี่ ทำไมต้อง 2 มาตรฐาน
อยากให้ทุกฝ่ายที่เห็นควรเอากัญชากลับเข้าไปเป็นยาเสพติด มาชี้แจงว่า ระหว่างกัญชากับเหล้าบุหรี่ ใครมีโทษมากกว่ากัน หากกัญชามีโทษมากกว่า จะไม่คัดค้าน แต่ถ้าไม่มากว่า หรือ น้อยกว่า ก็อยากให้มีพรบ.
อาจารย์เดชา บอกว่า ตนในนามหมอพื้นบ้านที่ใช้กัญชามาก่อนที่จะถูกกฎหมาย ได้รณรงค์ว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด มีประโยชน์รักษาคนมานับแสนกว่าคน น้ำมันกัญชาที่เอาไปวิจัย ก็ไม่มีใครเป็นอะไรสักคน จึงจะปกป้องกัญชาในฐานะสมุนไพรไม่ใช่ยาเสพติด การปกป้องจะใช้ธรรมะ คือใช้การบวช เหมือนบวชต้นไม้ไม่ให้คนมาตัด จึงได้ทำการบวชต้นกัญชา เพื่อป้องกันสมุนไพร ไม่ให้ใครมาทำร้ายเอาไปเป็นยาเสพติด หลังบวชต้นกัญชา โดยใช้ผ้าเหลืองเขียนยันต์ ผูกต้นกัญชา ทั้งหมดรวม 206 ต้น ก็จะนำไปตั้งไว้ที่หน้าวิหาร ซึ่งมีรูปปั้นหลวงปู่ปลัดยม วัดไทรโรงโขน จังหวัดพิจิตร บรมครูแห่งน้ำมันกัญชา ประดิษฐานอยู่
