ครม.เศรษฐกิจ ตั้งเป้า เพิ่มนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน - ยืดระยะเวลาพักอยู่ไทย - เร่งเบิกจ่ายงบ - หาสมดุลแรงงานที่ตกงาน - เGDP 3% ในปีนี้
วันนี้ ( 10 มิ.ย.67) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุมครม.เศรษฐกิจ หารือเรื่องที่เราแก้ปัญหา หรือปรับปรุง ซึ่งจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา ก็ชัดเจนว่าเศรษฐกิจมีปัญหา ทางรอด คือ ต้องเพิ่ม GDP 5% ซึ่งจาก สศค. ประมาณการ GPD 2.4% โดยในวันนี้ที่ประชุมได้มีการพูดถึงมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งปีให้ได้ไปถึง 3% ก่อน สูงกว่าเป้าที่ทาง สศช. คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขที่ชัดเจนว่าขับเคลื่อนได้ดีมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งถ้ามีนักท่องเที่ยวมากขึ้น 1 ล้านคน และเพิ่มระยะเวลาการอยู่ในไทยมากขึ้น ก็จะสามารถเพิ่มค่า GDP ได้ ถือเป็นมาตรการในระยะสั้น ส่วนงบลงทุน 8.5 แสนล้าน ต้องตั้งเป้าการเบิกจ่ายเม็ดเงินให้ได้ถึง 70% แต่ล่าสุดอยู่ประมาณ 51% ซึ่งในวันพุธนี้ จะมีการหารือหน่วยงานที่ใช้งบต่ำกว่าเป้า ว่ามีปัญหาอะไร และจะพูดคุยให้ใช้งบให้ถึงเป้าเพื่อเพิ่ม GDP
ส่วนการลงทุนของภาคเอกชน ที่มี 8 แสนกว่าร้านที่เตรียมลงทุนในไทยปีหน้า หากเราทำให้ลงทุนในไทยก่อนภายในปีนี้ ก็จะช่วยเพิ่ม GDP ด้วย และมาตรการใดที่จะช่วยขับเคลื่อน เราต้องเร่งมาดำเนินการ ซึ่งตอนนี้ขอศึกษาก่อน
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ได้คุยปัญหาเรื่องปาล์ม ที่ราคาขึ้น - ลง จากการดูปัญหาก็มาจากผลผลิตที่ออกมาเป็นช่วง ๆ ไม่เท่ากัน เนื่องจากของมากกว่าความต้องการ ทำให้มีการต่อราคาลง แม้ต้นทุนจะเท่าเดิม จึงจะคุยกันเพื่อให้ช่วยเหลือเกษตรกร และไม่ให้มีการนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศ รวมถึงมาตรการระยะยาวในการพูดคุยเพื่อกำหนดราคาที่ใกล้เคียง โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้
ส่วนโรงงานที่ปิดตัวลง ได้เชิญนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมาพูดคุยด้วย โดยได้นำเสนอรายงานว่ามีคนตกงาน 5 แสนกว่าคน ซึ่งกว่า 3 แสนคนได้กลับเข้ามาทำงานแล้ว และมีเกือบ 2 แสนคนที่ยังตกงานอยู่ ยังไม่รวมเด็กใหม่ที่กำลังหางานทำ ก็ยังเหลืออยู่บ้าง แต่ไม่มาก โดยทางกระทรวงแรงงานรับทราบข้อมูล และดูแลให้สมดุล
นายพิชัย ระบุว่า ต้องเพิ่มทักษะให้ประชาชน ในด้านที่ต้องการ คือด้านอิเล็กทรอนิกส์ นักลงทุนที่เตรียมเข้าไทย ต้องการความสามารถหลายอย่าง เราจึงตั้งคณะกรรมการระดับชาติขับเคลื่อน semi - conductors ต้องดูความต้องการของนักลงทุน มีการฝึกงานในโรงงานจริง และบุคลากรเดิมที่เข้าใจเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ต้องใส่ความรู้ไปเพิ่ม
ขณะที่ช่วงโลว์ซีซั่น ครม. อนุมัติการจัดสัมนาในจังหวัดเมืองรอง ตามที่ลิสต์ไว้ สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า และจังหวัดอื่น ๆ หักได้ 1.5 เท่า รวมถึงสนับสนุนไทยเที่ยวไทย การใช้บริการของไทย
ปัญหาเฉพาะหน้าในการแก้ไขปัญหาทางการเงิน การเข้าไม่ถึงสินเชื่อ สถานบันการเงินจะดูว่าติดเครดิตบูโรหรือไม่ โดยจะหารือธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าจะมีวิธีไหนแก้เรื่องนี้หรือไม่ โดยเน้นที่กลุ่ม 21 จากปัญหาโควิด 19 เพื่อให้มีบางส่วนหลุดจากการติดเครดิตบูโร คาดว่าประมาณ 4 ล้านคน โดยจะหารือกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายพิชัย ระบุว่า การเข้าถึงเม็ดเงิน ทำมาในส่วนธนาคารรัฐก่อน โดยธนาคารออมสินได้กำหนดนโยบาย เป็นธนาคารที่มีวินัยเข้มแข็งทางการเงิน ทำงานเพื่อสังคมได้ โดยกำไรที่เคยมีอยู่ หย่อนมาปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น และการของบ 5 หมื่นล้าน จะเข้า ครม. พรุ่งนี้ ระยะเวลา 10 ปี กระทรวงการคลังใช้เงินอุดหนุน 12-13% รวมถึงทำโครงการนี้ร่วมมือกับธนาคารรัฐ และธนาคารพาณิชย์ด้วย
