เช้านี้ที่หมอชิต - จากเรื่องจอดรถขวางทาง จนบานปลายเป็นภาพความวุ่นวายใน สน.ดินแดง จนแชร์กันในโซเชียล เรื่องนี้ตำรวจพอจะทราบแล้วว่า ชายที่โวยวายคนนี้เป็นใคร ใช่ "หมอทหาร" จริง ๆ ไหม แล้วจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ
ภาพวงจรปิดต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด จากภาพจะสังเกตเห็นว่า รถของผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุจอดต่อท้ายกัน หลังผู้ก่อเหตุเดินซื้อของในตลาดแล้วกลับมาที่รถ จะขับรถออก รถที่ขนย้ายบูธขายสินค้าก็ขยับไปข้างหน้าเพื่อเปิดพื้นที่ให้ แต่รถของผู้ก่อเหตุก็ยังพยายามจะขับตรงไปข้างหน้า
จากนั้นก็ถอยท้ายไปเล็กน้อย แล้วจอดรถเดินถือร่มลงไปคุยกับกลุ่มพนักงานที่กำลังขนของ ก่อนกลับไปขึ้นรถ จอดนิ่งอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขับรถพุ่งชนคู่กรณี
จุดนี้ถ้าสังเกตดูดี ๆ ที่ล้อรถ จะเห็นว่าตอนแรกล้อรถบิดสำหรับเลี้ยวออกไปทางขวามือ แต่หลังเบี่ยงตัวออกไปได้นิดเดียว ก็เลี้ยวกลับเข้ามา แล้วพุ่งตรงจนเกือบชนพนักงานหญิง ก่อนจะจบคลิปด้วยการขับรถถอยหลัง แล้วขับออกไป
คุณอภิเอก ผู้สื่อข่าว ไปสอบถามตำรวจ และผู้เสียหาย ยืนยันข้อเท็จจริง ตรงกับเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอ ซึ่งเกิดขึ้นช่วงเช้า 8 มิถุนายน จากนั้นผู้เสียหายก็ไปที่ สน.ดินแดง เพื่อจ่ายค่าปรับ เพราะถูกล็อกล้อ พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีอีกฝ่าย
ต่อมา ตำรวจตรวจสอบข้อมูล พบว่า เป็นผู้พักอาศัยในละแวกนั้น จึงเชิญตัวมาชี้แจงข้อเท็จจริง แต่พอเจ้าตัวมาถึงก็โวยวายใส่ทั้งตำรวจและผู้เสียหาย ก่อนเดินออกจากโรงพักไป
เบื้องต้น ตำรวจทำหนังสือส่งตัวให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนนำมาประกอบสำนวน ส่วนภาพวงจรปิดจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที ก่อนดำเนินคดีต่อไป ส่วนผู้เสียหาย ยืนยัน งานนี้ไม่ไกล่เกลี่ย ให้เรื่องไปจบคดีในชั้นศาลเท่านั้น
ส่วนที่ เพจ "อีซ้อขยี้ข่าว 3" โพสต์ข้อมูลว่าอีกฝ่ายเป็นแพทย์ทหาร และในโพสต์ก็มีลูกเพจไปคอมเมนต์ทำนองว่า เคยเห็นชายคนนี้ทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ทีมข่าวตรวจสอบเรื่องนี้ไปที่หน่วยงานต้นสังกัด พบชายในคลิปสังกัด "สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม" ตำแหน่ง "ผู้ทรงคุณวุฒิ" ช่วยราชการ "กรมแพทย์ทหารบก" ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกระทรวงกลาโหมทราบเรื่องแล้ว และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกลาโหม ผู้ก่อเหตุเป็นทหารจริง ตรวจสอบแล้วเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันช่วยราชการอยู่ที่กรมแพทย์ทหารบก
ต่อให้เรื่องนี้จะเป็นปัญหาเรื่องส่วนตัวใด ๆ ก็ตาม แต่นโยบายของ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำไปแล้วว่า เจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะชั้นยศไหน ก็ต้องอดทนอดกลั้น อย่าไปมีปัญหาขัดแย้งอะไรกับประชาชน
