พลเมืองดีแจ้งตำรวจให้ช่วยเหลือเยาวชนชาวเมียนมา ถูกนายจ้างเพื่อนร่วมชาติ บังคับให้ขายโรตี หากขายไม่หมด จะถูกทำร้ายทุบตี
พลเมืองดีคนหนึ่งได้โพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า "น้องโดนบังคับขายโรตี ถ้าขายไม่หมด กลับไปจะโดนทำร้ายร่างกาย ทั้งต่อยทั้งตีด้วยสายชาร์จโทรศัพท์ อยากกลับบ้านเกิดเต็มทีแล้ว"
หลังจากมีการเผยแพร่เรื่องดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าจุดขายโรตีอยู่ในพื้นที่เขตมีนบุรี ทางผู้กำกับการ สน.มีนบุรี จึงสั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนไปสืบหาข้อมูล จนเจอว่า ผู้เสียหายและนายจ้าง พักอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยสีหบุรานุกิจ 16 จึงนำกำลังไปช่วยเหลือออกมาได้ ทราบว่า ชื่อ นายไอยาส อายุประมาณ 16-17 ปี สัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นการลักลอบเข้าเมืองมาประมาณ 8 เดือน แล้วพักอยู่ที่ห้องเช่าที่ 6 เลขที่ 25 ซ.สีหบุรานุกิจ 16 แขวง เขตมีนบุรี กทม.
ส่วนอีกคนชื่อ นายโซ อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา เช่นกัน ถือหนังสือเดินทาง อนุญาตให้อยู่ถึง 13 ก.พ. 68 มีใบอนุญาตทำงานประเภทกรรมกร
จากการสอบถามนายโซ อายุ 30 ปี แจ้งว่าได้รับการติดต่อจากแม่ของนายไอยาส ต้องการให้มาทำงานในประเทศไทย นายโซ จึงออกค่าใช้จ่ายให้หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อประมาณกลางเดือน ต.ค. 66 โดยมีขบวนการลักลอบนำคนเข้าเมืองมาส่งที่ตลาดมีนบุรี จากนั้น ได้ฝึกให้พูดภาษาไทย และฝึกการทำโรตี ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นจะลงทุนทำโรตีแล้วให้นำออกไปเร่ขายที่บริเวณปากซอยหทัยราษฎร์ 1 วันละ 50-60 ลูก
เมื่อได้เงินมาทางนายโซ จะเก็บเงินทั้งหมดเพื่อหักเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่มีการจ่ายเงินเดือน จะเลี้ยงอาหารและมีที่อยู่ให้ จะส่งเงินให้แม่ของนายไอยาส เป็นรายเดือนเท่านั้น
ทั้งนี้นายไอยาส ขายของแล้วส่งเงินให้ไม่ครบ ขาดวันละ 50 - 150 บาท และ มีพฤติการณ์สูบบุหรี่ จึงได้ใช้มือตบตี ใช้สายชาร์จโทรศัพท์ ใช้สายยาง ตีตามร่างกาย จำนวนหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ
ส่วนทางด้านนายไอยาส เล่าว่า เวลาขายของไม่หมด หรือ บางครั้งลูกค้าไม่จ่ายเงิน ทำให้เงินขาดไป ก็จะถูกนายไอยาสทำร้าย ทำให้เกิดความกลัว ไม่อยากอยู่ด้วย อยากกลับบ้าน จึงได้ไปเล่าให้กับทางลูกค้าฟัง จึงนำเรื่องราวไปลงในสื่อโซเชียล ตามที่เป็นข่าว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ผู้เสียหายถูกซื้อตัวมาจากพ่อแม่ที่อยู่ในประเทศเมียนมา เพื่อมาบังคับทำงานขายโรตีในไทย จากนั้นก็ถูกบังคับขายโรตีเรื่อยมา โดยไม่มีวันหยุด ไม่มีเวลาพัก และไม่สามารถออกไปไหนได้ เว้นแต่ตอนทำงานเท่านั้น