ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจบุกจับ ญาติของ "นายชาดา ไทยเศรษฐ์" พร้อมพวก พบของกลางเป็น ยาไอซ์ 6 ถุง และ อาวุธปืนคาโรงแรม
รวบญาติ ชาดา ไทยเศรษฐ์ พกปืน-มั่วสุมยาไอซ์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เวลา 22.00 น. ตำรวจกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้รับแจ้งว่า มีการมั่วสุมปาร์ตียาเสพติด ที่ ห้องพักเลขที่ 304 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยเพชรบุรี 47 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่า พบ นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์, นายกิจจา, นางสาววาลิส และ นางสาวอัญชลีพร รวมทั้งหมด 4 คน พร้อมของกลาง เป็น ไอซ์ 6 ถุง และอาวุธปืน 11 มม. อีก 1 กระบอก
เมื่อทำการตรวจสอบ พบว่า นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ เป็นลูกพี่ลูกน้อง กับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจาก พ่อของนายชาดา เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของพ่อนายนรเศรษฐ์ ส่วน นายกิจจา เป็นคนขับรถของนายนรเศรษฐ์ ส่วน นางสาววาลิส และ นางสาวอัญชลีพร ไม่ใช่เด็กเอ็น แต่เป็นคนที่รู้จักกันมานานแล้ว
ในเวลาต่อมา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นางสาววาลิส และ นางสาวอัญชลีพร ผู้ต้องหาหญิง ทั้ง 2 คน มายัง สน.มักกะสัน โดยคนแรกได้ใช้ผ้าคลุมศีรษะปกปิดมิดชิด แต่ผู้ต้องหาหญิงอีกคน ใส่แค่แว่นกันแดดเท่านั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกนำตัวเข้าห้องฝ่ายสืบสวน
ญาติ ชาดา ไม่กังวลถูกจับคดีมั่วยา-อาวุธปืน
หลังจากถูกคุมตัวสอบสวนนานกว่า 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่นำตัว นายนรเศรษฐ์ พร้อมพวกอีก 3 คน ไปสอบปากคำอีกห้อง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายนรเศรษฐ์ ว่ามีความกังวลใจหรือไม่ และได้ติดต่อกับ นายชาดา หรือยัง แต่เจ้าตัวพูดเพียงสั้น ๆ ว่า "ไม่มีอะไรต้องกังวล"
เมื่อสอบปากคำเสร็จสิ้น ทั้งหมดถูกนำตัวไปห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อรอส่งศาลวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) ขณะที่ นายเกริกเกียรติ ทนายความผู้ต้องหา ให้ข้อมูลว่า ทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยวันพรุ่งนี้ ญาติเตรียมหลักทรัพย์ไปประกันตัวชั้นศาล ซึ่งต่างคนต่างยื่น เป็นเงินสด 40,000 บาท
เผยนาทีจับกุม ญาติ ชาดา พร้อมพวก
พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผู้กำกับการ สน.มักกะสัน ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้เข้ามาทำการบันทึกการจับกุมแล้ว ได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี และไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร ถึงแม้ว่า 1 ในผู้ต้องหา มีนามสกุลเหมือนกับนักการเมืองชื่อดัง หลังจากนี้ ก็จะทำการตรวจสารเสพติด ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เนื่องจากพบยาเสพติดขณะจับกุม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การจับกุมครั้งนี้ เริ่มจากช่วง 20.00 น. ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล 1 ได้ข่าวจากสายลับว่า จะมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในโรงแรมดังล่าว จึงนำกำลังไปเฝ้าติดตาม กระทั่งเวลาประมาณ 22.25 น. พบ นางสาวอัญชลีพร เดินลงมาใต้อาคารโรงแรมด้วยท่าทางที่มีพิรุธ จึงขอตรวจค้น กระทั่งยอมรับว่า เสพยาไอซ์มา และยังมีกลุ่มเพื่อนกำลังมั่วสุมเสพยาไอซ์ อยู่ในห้องพักชั้น 3 ของโรงแรม ตำรวจจึงให้ นางสาวอัญชลีพร พาไปตรวจค้น พบผู้ต้องหาอีก 3 คน พร้อมของกลางยาเสพติด และอาวุธปืน
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติด ส่วน นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในทางสาธารณะ
นายกฯ ชี้เหตุจับ ญาติชาดา เป็นไปตามกลไก
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว ก่อนขึ้นประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่ญาติของ นายชาดา ถูกจับกุม แต่เชื่อว่าทุกอย่าง เป็นไปตามกลไก ทางกฎหมาย และในกรณีดังกล่าว ทาง นายชาดา ก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์พิเศษ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนวันนี้ ทราบเพียงว่า นายชาดา ติดภารกิจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ จึงลาการประชุม ครม.
ซึ่งถ้าคุณผู้ชมยังจำกันได้ เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เคยนำกำลังเข้าทำการจับกุม นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็น ลูกเขยของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ มาแล้ว
หลังได้รับการร้องเรียนว่า นายวีระชาติ เรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาล 2 โครงการ ซึ่งทั้ง 2 โครงการ มีผู้รับเหมาก่อสร้างรายเดียวกัน ได้เข้าประมูลโครงการทั้ง 2 ตำบล โดยระบุว่า ถูก นายวีระชาติ เรียกรับเงินเพื่ออำนวยความสะดวก ในมูลค่าโครงการละ 500,000 บาท ต่อมา มีการต่อรองและจ่ายให้โครงการละ 300,000 บาท รวม 2 โครงการ เป็นเงิน 600,000 บาท