คลิปลูกเรืออ้าง รอคำสั่ง เสธ. ก่อนเรือ 3 ลำ ล่องหน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรือบรรทุกน้ำมันของกลางที่หายไป 3 ลำ มีความชัดเจนขึ้นระดับหนึ่งแล้วว่า เรือทั้ง 3 ลำ มุ่งหน้าไปทางเกาะกูด น่านน้ำกัมพูชา ขณะที่ทีมข่าวได้คลิปจากแม่ค้าที่ขายของบริเวณสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ เป็นลูกเรือลำที่หายไปบอกว่า "รอคำสั่ง เสธ." ก่อนเรือจะหาย

คลิปลูกเรืออ้าง รอคำสั่ง เสธ. ก่อนเรือ 3 ลำ ล่องหน
ความคืบหน้าเหตุการณ์เรือของกลางบรรทุกน้ำมันเถื่อนจำนวน 3 ลำ บรรทุกน้ำมันเถื่อนรวมกว่า 330,000 ลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ

วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปการสนทนา ระหว่างแม่ค้า ที่จอดขายของบริเวณต้นสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ กับหนึ่งในลูกเรือบรรทุกน้ำมันของกลางที่หายไป ในคลิปแม่ค้าสอบถามลูกเรือว่า ไหนบอกสิ้นเดือนจะกลับ ซึ่งลูกเรือบรรทุกน้ำมันได้ตอบกับว่า "เสธ.ไม่ให้กลับ" และให้อยู่จนคดีจบ

ส่วนคดีจะจบเมื่อไหร่ ก็ยังไม่ทราบ เนื่องจากจะต้องไปรายงานตัวอีกครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน ก่อนขึ้นศาล และเมื่อขึ้นศาลเสร็จ เรือบรรทุกน้ำมันก็จะถูกยึดเพื่อดูดน้ำมันออก และจะมีการนำเรือออกประมูล ซึ่งลูกเรือที่อยู่ในคลิปยังได้กล่าวตัดพ้อที่ถูกกลุ่มคนโกงเงินไป 2,000 บาท และพูดว่าตัวเองแค่ผ่านมาบนแผ่นดินไทย เดี๋ยวก็ไป จึงไม่อยากไปเอาเรื่องคนที่โกงเงินไป อีกทั้งเสธ. ก็สั่งว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเล็กอย่าไปใส่ใจ ยังมีเรื่องใหญ่รออยู่ ตัวเองจึงไม่ทำอะไร และเชื่อที่ เสธ. สั่ง ซึ่งคลิปดังกล่าวได้มีการบันทึกไว้ ก่อนที่เรือบรรทุกน้ำมันของกลาง 3 ลำจะหายไป 

บช.ก.แจงรถกระบะสีดำขนเสบียง เป็นรถตำรวจ
ส่วนการติดตามเรือที่หายไปทั้ง 3 ลำ ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ไล่ดูกล้องวงจรปิดรถทั้งหมดที่มีการเข้าออกท่าเทียบเรือ โดยเฉพาะรถกระบะสีดำ ที่มีถังน้ำมันอยู่ด้านหลัง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 3 ลำ หรือไม่ และเหตุใดจึงมีการบรรทุกถังน้ำไปบนสะพาน

ซึ่งตำรวจสอบสวนกลาง พบว่า วันที่ 10 มิถุนายน เวลาประมาณ 17.05 น. ที่มีรถกระบะคันดังกล่าวขับเข้าไปยังท่าเรือสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ และไปจอดเทียบข้างเรือ 633 โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที

จากการตรวจสอบเป็นของตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 5 ซึ่งขับเข้าไปเพื่อเติมน้ำเปล่า สำหรับใช้ในการอุปโภค เช่น การอาบน้ำ และกิจกรรมอื่น ๆ

โดยเมื่อตรวจสอบตารางภารกิจ พบว่าเรือ 633 มีภารกิจ อบรม ศรชล. ภาค 1 ที่โรงแรมบ้านฉางพาเลช จังหวัดระยอง ในวันที่ 11-13 มิถุนายน 2567 จึงมีความจำเป็นต้องเติมน้ำ สำหรับใช้ในภารกิจบนเรือ เช่น การทำความสะอาด เป็นต้น 

บิ๊กเต่า คาดเรืออยู่ในน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามเรือว่า คาดว่าพิกัดเรือจะอยู่ในน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากการสืบสวน พบว่าเรือแล่นไปทางเกาะกูด ประเทศกัมพูชา 3 ลำ จึงคาดว่าเรือน่าจะอยู่ในน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่เจอเรือ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง ก็สามารถประสานกับประเทศเพื่อนบ้านได้