สามีภรรยาต้องการเงินด่วน นำรถไปจำนำกับร้านที่ติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยจำนวน 30,000 บาท วันต่อมาเอารถอีกคันมาจำจอด และขอเปลี่ยนคันซึ่งใหม่กว่าเพื่อเอาเงินเพิ่ม 60,000 โดยหักส่วนต่างคันเดิมพร้อมดอกเบี้ยได้เงินมา 20,000 บาท สุดท้ายถูกเชิดรถทั้งสองคัน
15 มิ.ย. 67 ที่สภ.บ้านไผ่ นายคำสิงห์ อายุ 55 ปี และนางกนกพิชญ์ อายุ 55 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านบ้านคำมืดเหนือ ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นำเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยกับคนรับจำนำรถยนต์ผ่านแช็ตเฟซบุ๊ก ระหว่าง นายคำสิง และ นายเน อายุ 35 ปี ผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถติดไฟแนนซ์ค้างค่างวดเราก็รับ รวมทั้งเอกสารบัตรประชาชนของฝ่ายเจ้าของรถ และฝ่ายรับจำนำรถ มามอบให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่
นายคำสิงห์ เผยว่า อยากขอความช่วยเหลือ ให้ติดตามคนรับจำนำรถ เอารถมาคืนด้วย เนื่องจากรถยนต์ทั้ง 2 คัน ยังต้องผ่อนงวดกับไฟแนนซ์อีกเกือบ 4 แสนบาท อยากได้รถกลับมาทำมาหากิน ครอบครัวประกอบอาชีพส่งพัสดุของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยดาวน์รถมาใช้ดำเนินธุรกิจจำนวน 3 คัน ต่อมาซื้อบ้าน และต้องผ่อนบ้าน ทำให้ทางการเงินช็อตหมุนไม่ทัน หากู้เงินกับสถาบันการเงินก็ไม่ได้ มีขั้นตอนหลายอย่าง บางธนาคารก็กู้ไม่ได้ จึงหาที่รับจำนำรถยนต์ เพื่อเอาเงินมาหมุนใช้
จนพบเพจเฟซบุ๊กชื่อ รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถติดไฟแนนซ์ค้างค่างวดก็รับ จึงทักไปคุย และได้คุยกับนายเน อ้างว่าเป็นเจ้เของเพจและรับจำนำรถทุกชนิด การพูดคุยเป็นที่เข้าใจกัน โดยนายเนรับจำนำรถยนต์ไว้ในราคา 30,000 บาทนัดจ่ายเงินและรับรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.บ้านไผ่ โดยคันแรกได้จำนำ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ตอนเดียว ทะเบียน ยธ-7967 ขอนแก่น นัดรับรถที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ปตท.หลัก 16 อ.บ้านไผ่ จึงขับรถไปส่งในวันที่ 24 พ.ค 2567 มีหญิง 2 คนมารับและนำเงินสดมาจ่ายให้จำนวน 25,000 บาท ส่วนอีก 5,000 บาท นายเนหักไว้เป็นค่าดำเนินการต่างๆ จากนั้นหญิง 2 คนก็ขับรถออกไป
ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ติดต่อกับนายเนอีกครั้ง ทั้งทางโทรศัพท์และทางแช็ตเฟซบุ๊ก เพื่อขอสับเปลี่ยน โดยเอารถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า แชมป์ สีขาว ทะบียน ยข-4547 นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถใหม่กว่าคันแรก โดยตกลงกันว่าขอจำนำรถคันใหม่ในราคา 60,000 บาท หักหนี้ที่จำนำรถคันแรกไป 30,000 บาทและดอกเบี้ยต่างๆ จะเหลือเงิน 20,000 บาท เมื่อคุยกันเข้าใจ นายเนก็ขอมารับรถที่ที่ปั๊มน้ำมันจุดเดิม ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ โดยนายเนจะขับรถคันเก่ามาคืนให้ ฝ่ายตนก็เอารถคันใหม่มามอบให้ เมื่อถึงเวลา นายเนขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดในปั้มน้ำมัน แต่ไม่ใช่รถคันที่รับจำนำไว้คันแรก จึงได้พูดคุยกันอีกครั้ง โดยนายเนบอกว่า จะรับรถคันใหม่ไปจอดที่เต้นท์ก่อน จากนั้นจะนำรถคันเก่ามาส่งให้ แต่ไม่แจ้งว่าเต้นท์ใด จากนั้นนายเนก็จ่ายเงินจำนวน 20,000 บาทแล้วก็ขับรถออกไป รอจนมืดค่ำก็ไม่กลับมา จึงโทรแจ้ง 191 เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้ประสานตำรวจสภ.บ้านไผ่ไปรับที่ปั้มน้ำมัน พามาพบพนักงานสอบสวนสภ.บ้านไผ่ และแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ให้ติดตามนายเนมาพูดคุยและให้นำรถมาคืน เพราะตอนนี้เชื่อว่า นายเนเป็นขบวนการหลอกจำนำรถเอาไปส่งขาย ซึ่งรถยนต์ทั้ง 2 คัน ยังต้องผ่อนงวดกับไฟแนนซ์อีกเกือบ 4 แสนบาท อยากได้รถกลับมาทำมาหากิน