7 สีช่วยชาวบ้าน - เรื่องใหญ่ต้องขยายวันนี้ ชาวบ้านริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตกในจังหวัดพิษณุโลก รวมตัวยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอให้ช่วยหลังเทศบาลนครพิษณุโลกส่งหนังสือแจ้งให้ย้ายออกจากพื้นที่
หนังสือดังกล่าวลงนามโดย นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก แต่ชาวบ้านบอกว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีการชี้แจงใด ๆ การยื่นหนังสือในครั้งนี้ มีนายเชาวลิตย์ ชมวิจิตร ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้รับเรื่อง
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ พบว่า ถนนริมแม่น้ำน่านมีป้ายโครงการก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตกและตะวันออก ช่วงสะพานสุพรรณกัลยาถึงสะพานเอกาทศรถ ดูแลโดย กรมโยธิการและผังเมือง งบประมาณก่อสร้าง 307 ล้านบาท เริ่มสัญญา 5 เมษายน 2566 สิ้นสุดสัญญา 18 มกราคม 2569 ส่วนตามอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ติดประกาศแจ้งให้รื้อถอน และย้ายออกจากที่สาธารณะ ซึ่งเจ้าของอาคารบางส่วนได้ย้ายออกและเริ่มรื้อถอนแล้ว
ด้าน ตัวแทนชาวบ้าน เล่าว่า อาศัยที่นี่มาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย พอมีหนังสือสั่งให้รื้อถอนและย้ายออกก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน อยากให้ช่วยเรื่องที่อยู่ใหม่ ส่วนคนที่เริ่มย้ายออกไปก็ต้องการให้ช่วยเรื่องค่ารื้อถอนด้วย
ด้าน นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาตลิ่งริมแม่น้ำน่านดำเนินมากว่า 20 ปี ค่อย ๆ สร้างมาเรื่อย ๆ กระทั่งตอนนี้เหลือเพียงการก่อสร้างช่วงสะพานสุพรรณกัลยาถึงสะพานเอกาทศรถ หน้าที่ของเทศบาลฯ คือ ต้องเตรียมพื้นที่ให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการ แต่พื้นที่ดังกล่าวมีผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะ จึงต้องทำความเข้าใจ ใช้มาตรการตามกฎหมาย โดยที่ผ่านมา ก็มีการเชิญชาวบ้านมาประชุม
อย่างการประชุมเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีชาวบ้านยินดีย้ายออก 20 ราย เหลืออีก 20 รายที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ และชาวบ้านก็ไม่รับฟังเหตุผล อ้างเพียงอาศัยมานาน แม้เทศบาลฯ จะชี้แจงว่า การอาศัยก่อนหน้านี้เป็นเพียงการให้อาศัยชั่วคราว เมื่อราชการต้องการใช้พื้นที่ ผู้อาศัยชั่วคราวต้องส่งคืนพื้นที่ เบื้องต้นพบว่า ชาวบ้านต้องการเงินชดเชย แต่การบุกรุกที่หลวงนั้นจะไม่มีการจ่ายเงินชดเชย และจะมีการฟ้องขับไล่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ฟ้องร้อง เพราะเป็นมาตรการสุดท้าย ซึ่งหากครบกำหนดแต่ยังไม่สามารถเริ่มก่อสร้าง งบประมาณจะตกไป บ้านเมืองก็จะไม่ได้รับการพัฒนา