ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A วันนี้ (18 มิ.ย.67) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก ยกเคสผู้ป่วยชายอายุ 38 ปี ปกติแข็งแรงดี มีประวัติเป็นโรคหอบหืด 7 ปี ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมเฉพาะเวลามีอาการเท่านั้น ผู้ป่วยเริ่มมีไข้สูง ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อยมาก เป็นเวลา 3 วัน ผู้ป่วยให้ประวัติว่าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และแอสตราเซเนกา 1 เข็ม เคยติดโควิดมาแล้ว 2 ครั้ง ไม่เคยรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มาโรงพยาบาลวันที่ 10 มิ.ย.67
ผลตรวจร่างกาย ไข้สูงอุณหภูมิ 39 องศาเซลเซียส หัวใจเต้นเร็ว 167 ครั้งต่อนาที ฟังปอดมีเสียงวี๊ดทั้ง 2 ข้าง ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วต่ำ 87% ขณะที่ใส่สายออกซิเจนทางจมูก 5 ลิตรต่อนาที ผลเอกซเรย์ปอดปกติ แยงจมูกส่งตรวจหาแอนติเจนไวรัสทางเดินหายใจ 7 เชื้อ ด้วยชุดตรวจเร็วให้ผลลบ จึงส่งตรวจรหัสพันธุกรรม 22 เชื้อโรคทางเดินหายใจใช้เวลา 2 ชั่วโมง พบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H1N1
เคสนี้แพทย์วินิจฉัยว่า หอบหืดกำเริบเฉียบพลันจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A รับเข้าห้องไอซียู ต้องให้ออกซิเจนชนิดอัตราการไหลสูงทางจมูก High-Flow nasal O2 cannula ให้ยาต้านไวรัส oseltamivir ยาสเตียรอยด์ฉีด ยา singulair ยาพ่นขยายหลอดลม ใช้เวลา 3 วันกว่าคนไข้จะค่อย ๆ ดีขึ้น ย้ายขึ้นวอร์ดได้ และให้กลับบ้านได้หลังนอนรักษาใน รพ. นาน 8 วัน
หมอมนูญ เปิดเผยด้วยว่า ผู้ป่วยคนนี้เคยป่วยเป็นโรคโควิด 2 ครั้ง แต่อาการไม่หนักเท่ากับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้ ไวรัสไข้หวัดใหญ่มีผลพวงตามมากับบางคนที่เป็นโรคหอบหืด ทำให้หอบหืดกำเริบเฉียบพลันถึงขั้นระบบหายใจเกือบล้มเหลว โชคดีที่รักษาเร็ว ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีจะช่วยลดโอกาสป่วยหนักจากโรคหอบหืดกำเริบถึงขั้นเข้าห้องไอซียูได้
