นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ไปติดตามการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพื้นที่ภาคเหนือ

View icon 176
วันที่ 19 มิ.ย. 2567 | 20.06 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
วันนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปติดตามการดำเนินโครงการขุดลอกบึงระหารน้ำใส-คลองบางช้าง (ฝั่งขวา) อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริให้กรมชลประทานจัดหาแหล่งน้ำเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคแก่ราษฎรตำบลนากลาง ตำบลบางประมุง และพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อปี 2523 จากนั้น ได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริโดยขุดลอกบึง ลำคลองธรรมชาติ และก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ ตั้งแต่ปี 2525-2528 มีโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือราษฎรอำเภอโกรกพระ มีพื้นที่รับประโยชน์ 16,000 ไร่

ต่อมา สำนักงาน กปร. สนับสนุนงบประมาณปี 2564 ดำเนินการขุดลอกแก้มลิงบึงระหารน้ำใส ตำบลนากลาง แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ปัจจุบัน โครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำฯ อำเภอโกรกพระ ทำให้ราษฎรมีน้ำใช้สำหรับพื้นที่การเกษตร และสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้พิจารณาเพิ่มศักยภาพของโครงการบึงระหารน้ำใส-คลองบางช้าง (ฝั่งขวา) เพิ่มเติม เพื่อให้มีการพัฒนาและให้เกิดความมั่นคงด้านน้ำ โดยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบทั้งหน้าแล้งและฤดูฝน

ในตอนบ่าย ไปติดตามการดำเนินโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านสามขา (2) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงรับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี 2554 เพื่อช่วยเหลือราษฎรตำบลฆะมัง และตำบลบ้านบุ่ง เนื่องจากขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และการเกษตร โดยสำนักงาน กปร. สนับสนุนงบประมาณปี 2558 แก่กรมชลประทาน เพื่อก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และแพตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 แห่ง ท่อส่งน้ำชนิดรับแรงดันซีเมนต์ใยหิน ชั้นคุณภาพ, ระบบส่งน้ำ พร้อมอาคารประกอบ 10 แห่ง, ระบบไฟฟ้าแรงต่ำจากหม้อแปลงลงแพเหล็ก 1 แห่ง และขยายเขตระบบไฟฟ้าแรงสูง แล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน 2558 ส่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตร 1,200 ไร่ ต่อมาเดือนตุลาคม 2558 ได้ถ่ายโอนภารกิจและการบริหารจัดการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าฯ ให้องค์การบริหารส่วนตำบลฆะมัง ปัจจุบัน สามารถส่งน้ำไปยังแปลงเกษตรของราษฎรตำบลฆะมัง และตำบลบ้านบุ่ง รวม 1,844 ไร่ ราษฎรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ มีกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ใช้น้ำ 4 กลุ่ม โดยมีการประชุมร่วมกันปีละ 1 ครั้ง และมีการชำระค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำไร่ละ 150 บาทต่อฤดูกาล ส่วนใหญ่ปลูกข้าว และไม้ผล ได้แก่ มะปราง มะม่วง มะขามยักษ์ ส้มโอขาวน้ำผึ้ง และทุเรียน รวมทั้ง ปลูกไม้ดอก เช่น ดอกพุด, จำปี และเลี้ยงกบ

ข่าวอื่นในหมวด