รถกู้ภัยทิ้งหญิงป่วยข้างทาง ทำวุ่นทั้งจังหวัด หาคนรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ชี้แจง ผู้ป่วยขอลงเอง ขอโทษสื่อสารไม่รู้เรื่อง จนผิดพลาด จะระวังให้มากขึ้น
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 21 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนศาลหลักเมืองเดิม ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี ว่ามีหญิงป่วยโควิด ขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชน ถูกรถกู้ภัยนำมาทิ้งไว้ที่ใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ได้ติดต่อประสานไปทางเทศบาลตำบลบางศรีเมือง เจ้าหน้าที่ พม. แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้เนื่องจากหญิงคนดังกล่าวถามตอบพูดจา วกวน
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ บันทึกภาพเมื่อเวลา 09.51 น. พบรถกู้ภัยคันหนึ่งขับมาจอดที่บริเวณใต้สะพาน จากนั้นหญิงป่วยคนดังกล่าวได้ลงมานั่งริมทางเท้า ก่อนที่รถจะขับออกไป หญิงคนดังกล่าวจึงค่อย ๆ ขยับเข้าที่ร่ม
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบหญิงคนดังกล่าวนั่งอยู่ที่ทางเท้า มีไม้ค้ำยันสำหรับช่วยพยุงตัว ถุงกระดาษ และถุงยา วางอยู่ใกล้ สอบถามทราบชื่อคือ น.ส.อรุณี อายุ 49 ปี ชาวจ.อ่างทอง
ต่อมา ดร.ปริญญา ศักดิ์นาวี ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.นนทบุรี เขต2 ได้เดินทางช่วยประสานงาน พูดคุยกับทางเทศบาลตำบลบางศรีเมือง เจ้าหน้าที่ พม.จ.นนทบุรี ให้ลงมาตรวจสอบ จนทราบว่าเป็นผู้ป่วยที่มารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งใน อ.บางกรวย ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ติดต่อขอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำไปส่งกลับบ้านหลังจากรับยารักษาแล้ว แต่ไม่ได้บอกปลายทาง ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยถามผู้ป่วยเอง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทราบว่า ปกติจะรับส่งผู้ป่วยฟรี เมื่อเช้ามีอาสาสมัครของมูลนิธิโทรมาขอความอนุเคราะห์ให้รับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งให้ไปส่งที่วัดซองพลู ใกล้วงเวียนพระราม 5 โดยไม่ได้แจ้งว่าเป็นผู้ป่วยโควิด เมื่อรับผู้ป่วยได้ถามแล้วว่าให้ส่งที่ไหน แต่ผู้ป่วยพูดไม่รู้เรื่อง เมื่อมาถึงใต้สะพาน ผู้ป่วยบอกจะลงตรงนี้ เลยจอดให้ลง
ตนต้องขอโทษด้วยที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่องจนผิดพลาดไป คราวหน้าจะระวังให้มากกว่านี้
ซึ่งทางด้านหัวหน้าจุดเจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ที่ผู้ป่วยมีสติไม่ครบจนเกิดปัญหาขึ้นมา ขอนำไปเป็นกรณีบทเรียน เอาเข้าไปประชุมที่มูลนิธิอีกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ดร.ปริญญา ศักดิ์นาวี ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.นนทบุรี เขต2 ได้ติดต่อประสานงานโรงพยาบาล เพื่อหาข้อเท็จจริง ทราบว่า ผู้ป่วยไม่มีบัตรประชาชนและไม่มีญาติ ได้สอบถามทางโรงพยาบาลต้นทาง จนในที่สุดทางโรงพยาบาลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำกลับไปส่งที่โรงพยาบาลเดิม เพื่อประสานญาติหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับตัวกลับไป หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับไปดูแลหากเป็นคนไร้ที่พึ่ง
จากนัันเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการฉีดยาฆ่าเชื้อบริเวณทางเท้า และรั้วสแตนเลส ที่หญิงป่วยนั่ง เนื่องจากมีการปัสสาวะเรี่ยราดไว้ตรงจุดนั้น
