หนุ่ม นศ.เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วิดีโอคอลอ้างตัวเป็ตำรวจ สูญเงินหลักหมื่น

หนุ่ม นศ.เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วิดีโอคอลอ้างตัวเป็ตำรวจ สูญเงินหลักหมื่น

View icon 273
วันที่ 23 มิ.ย. 2567 | 09.24 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่ม นศ.เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอกลวง เปิดกล้องวิดีโอคอลคุย มิจฉาชีพแต่งกายตำรวจเต็มยศ ทำให้หลงเชื่อ โอนเงินหลักหมื่นบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ วิดีโอคอลแต่งตัวตำรวจเต็มยศหลอกเหยื่อ วันนี้ (22 มิ.ย.67)  นางวิลาวัณย์ อายุ 66 ปี พร้อมบุตรชายคือนายบิ๊ก (นามสมมติ)  อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะวิศวะกรรม ปี 3 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนวิภาวดี กรุงเทพฯ นำหลักฐานเอกสารต่างๆรวมทั้งสมุดบัญชีเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี หลังนายนรภัท ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้มุกเดิมหลอกให้โอนเงิน จำนวน 11,000 บาท โดยอ้างว่านายนรภัท มีการทำธุรกรรมการเงินพัวพันกับแก๊งสีเทาให้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ผู้เสียหายเองรู้สึกกลัวจึงได้ทำตามที่แก๊งมิจฉาชีพบอกและสูญเงินไปดังกล่าว

นายบิ๊ก (นามสมมติ) เล่าด้วยเสียงอันสั่นเครือน้ำตาคลอว่า มิจฉาชีพได้โทรเข้ามาหาตน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่เครือข่ายโทรศัพท์ค่ายหนึ่ง บอกว่าตนไปเปิดเบอร์ที่ศูนย์ และมีหัวหน้านิติกร สำนักงานใหญ่ ชื่อ รัชนีกร  โดยรัชนีกรแนะนำให้ตนไปแจ้งความที่ สภ.ที่เกิดเหตุ คือ สภ.เมืองราชบุรี ไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นก็โอนสายตนไป สภ.เมืองราชบุรี ให้เจ้าหน้าที่ชื่อ ร.ต.อ.หญิง ปนัดดา รับสายและบอกตนไปแอบอ้างเปิดซิมโทรศัพท์ระบบเติมเงิน ร.ต.อ.หญิงปนัดดา จึงบอก ID Line ที่แอบอ้างว่าเป็น สภ.เมืองราชบุรี ให้กับตน ตนจึงกดเข้าไปแล้วจากนั้น ร.ต.อ.หญิงปนัดดา ก็โอนสายตนให้ตำรวจชายอีกคน ยศ ร.ต.อ. โดยเปิดกล้อง VDO Call กับตำรวจนายนี้ เขาใส่เครื่องแบบตำรวจ ใส่แว่น ใส่แมสก์ นั่งบนเก้าอี้ฉากหลังเป็นโลโก้ของตำรวจ ตนจึงเชื่อว่าเขาเป็นตำรวจจริง

จากนั้นเขาก็ถามข้อมูลจากตนตามปกติ เช่น นำเลขบัตรประชาชนไปเผยแพร่ให้ใครหรือเปล่า พอถามเสร็จ ก็ส่งเรื่องของตนให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ โดยฝ่ายตรวจสอบพบว่าตนไปมีส่วนกับคดีฟอกเงิน ของนายกำพล ซึ่งถูกจับกุมแล้ว และตรวจสอบพบสมุดบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของตนเป็นบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบางกรวย เขาก็ส่งรูปสมุดบัญชีมาทางไลน์ให้ตนๆบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่เคยไปเปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งนี้ และเขาก็ถามอีกว่ารู้จักนายกำพล หรือไม่ ซึ่งตนบอกไปว่าไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จัก และที่สำคัญไม่เคยขายสมุดบัญชีให้นายคนนี้เลย โดยตำรวจเขาก็ดูพูดเหมือนว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาบอกตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายกำพล แล้วก็ให้ตนหยิบกระดาษ A4 แล้วเขียนเป็นใบแจ้งความ ลงวันที่ และถ่ายรูปบัตรประชาชนของตนกับคุณแม่ ถ่ายส่งให้เขาทางไลน์ของ สภ.เมืองราชบุรี

นายบิ๊ก (นามสมมติ)  เล่าต่ออีกว่า จากนั้นตำรวจชายก็โอนสายให้ ร.ต.อ.หญิง ปนัดดา VDO Call โดยต้องเห็นตนกับคุณแม่ จะมีการบันทึกเสียงตลอด เพื่อสอบปากคำ ซึ่งตนได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เมื่อสอบปากคำเสร็จ ร.ต.อ.หญิง ปนัดดาได้บอกสคริปให้ตนและพูดกับคนที่อ้างว่าเป็น ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ตามสคริป โดยเขาก็ให้ตนกับแม่ดูสมุดบัญชีธนาคารของตนเองและบอกยอดเงินคงเหลือของทุกบัญชีให้เขาทราบ และอยากรู้จำนวนเงินสดที่ตนกับคุณแม่มีอยู่ในตอนนี้มีเท่าไหร่ ต่อมาเขาก็ส่งหมายศาลปลอม หมายจากตำรวจส่งมาทางไลน์ มาให้ตนดูและพยายามบอกว่าให้เราเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ตนจึงโอนเงินตนให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีอยู่ในบัญชี 11,000 บาท เป็นเงินที่ตนสะสมมาเกือบปี

หลังจากนั้นเขายังบอกให้ตนโอนเงินจากบัญชีของคุณแม่อีก 19,000 บาท ให้เขาในเบื้องต้นรวมเป็นเงิน 30,000 บาท ทางคุณแม่เอะใจ จึงได้ปรึกษากับญาติๆและเชื่อแน่ว่าถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้ช่วยติดตามเงินที่ถูกหลอกไปในครั้งนี้ด้วย ตนเคยเห็นแต่ข่าวในทำนองนี้แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองมิจฉาชีพพูดจาน่าเชื่อถือทำกันเป็นขบวนการ “ก็อยากฝากบอกเขาว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครเลย เงินทุกบาททุกสตางค์กว่าทุกคนจะหามาได้มันลำบากมาก”