คนไทยเป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญ พี่น้องแสบ ปลอม FB นักธุรกิจคนดังเมืองอุดรฯ หลอกซื้อถังออกซิเจนบริจาค รพ. ห่างไกล กองบุญละ 8,999 บาท หาเงินเสพยา สารภาพปลอมเป็นคนดังทั่วประเทศ 400 ชื่อบัญชี หลอกสารพัด ทั้งบริจาคช่วยสัตว์เจ็บป่วย ผู้พิการ
วันนี้ (24 มิ.ย.67) พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวีรพงศ์ หรือบาส อายุ 19 ปี และนายพีรพัฒน์ หรือพี อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ในคดีฉ้อโกง
สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.67 เจ๊หงส์ นักธุรกิจและเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในอุดรธานี ได้แจ้งความว่าถูกคนร้ายปลอมเฟซบุ๊ก นำชื่อและรูปภาพของผู้เสียหาย ไปหลอกขอรับเงินบริจาคจากกลุ่มเพื่อนและผู้ติดตามในเฟซบุ๊ก โดยแอบอ้างว่า เป็นการสมทบทุนซื้อถังออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลในชนบท กองบุญหรือถังละ 8,999 บาท หรือบริจาคตามกำลังศรัทธา ซึ่งมีเพื่อนและผู้ที่ติดตามเฟซบุ๊ก หลงเชื่อโอนเงินไปทำบุญจำนวนมาก
ในชั้นสืบสวนจากเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปบริจาค จนทราบว่านายพี และนายบาส สองพี่น้องเป็นผู้ปลอมเฟซบุ๊กของนักธุรกิจชาวอุดรธานี เพื่อหลอกเพื่อนในเฟซบุ๊กให้โอนเงินบริจาคทำบุญ จึงรวบรวมหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดอุดรธานีออกหมายจับ และเข้าจับกุมนายพีและนายบาส ได้ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุปลอมเฟซบุ๊กหลอกให้โอนเงินจริง โดยจะเลือกปลอมเฟซบุ๊กของผู้ที่มีชื่อเสียง มีคนติดตามมาก หรือหน่วยงานราช เชิญชวนให้บริจาค เพราะคนไทยเป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญ
ผู้ต้องหาสารภาพด้วยว่า ร่วมกันก่อเหตุตั้งแต้ปี 2564 โดยคัดเลือกเฟซบุ๊กคนดังได้กว่า 400 รายชื่อ จากนั้นจะหลอกยืมบัญชีจากเพื่อนหรือญาติ มาใช้เพื่อให้เหยื่อที่หลงเชื่อโอนเงินเข้า แล้วจะโทรแจ้งให้เจ้าของบัญชีโอนเงินมาให้ โดยเงินที่หลอกลวงได้มา จะเอาไปซื้อยาเสพติด โดยสองพี่น้องเคยถูกจับกุมคดียาเสพติด นายพีได้ประกันตัวแล้วหลบหนี ส่วนนายบาสอยู่ในสถานพินิจฯ เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุปลอมเฟซบุ๊กอีก ซึ่งมีผู้เสียหายทั่วประเทศ ส่วนความเสียหายยังประเมินไม่ได้ เพราะผู้เสียหายบางคนยังไม่รู้ว่าโดนปลอมเฟซบุ๊ก ส่วนผู้โอนเงินทำบุญก็ยังไม่รู้ตัวว่าโดนหลอก หลังจากนี้ ชุดสอบวนจะส่งแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหา ไปให้ตำรวจไซเบอร์ ขยายผลว่า ผู้ต้องหาได้ปลอมเฟซบุ๊กของใครบ้างจาก เพื่อค้นหาตัวผู้เสียหายที่โดนหลอกโอนเงิน ให้มาแจ้งความดำเนินคดี
ผู้เสียหายคนหนึ่ง เล่าว่า ได้โอนเงินทำบุญ 1,000 บาท แต่คนร้ายยังได้ขอยืมเงินของตน โดยหลอกให้โอนไปทำบุญให้ก่อน 5,000 บาท ทำให้หลงเชื่อรีบโอนให้ทันที โดยไม่ได้ติดใจสงสัย
ส่วนนายโอ๊ต อายุ 17 ปี ผู้เสียหายที่ถูกนายบาสหลอกขอยืมบัญชีไปหลอกเหยื่อให้โอนเงิน เล่าว่า ตนเป็นเพื่อนสมัยเรียนชั้นประถมศึกษากับนายบาส และรู้จักกับนายพี พี่ชายของนายบาสด้วย หลังจบ ม.3 ตนก็ออกมาทำไร่ข้าวโพดช่วยแม่ ต่อมานายบาสมาขอยืมบัญชีตนไป โดยตนไม่รู้ว่านายบาสเอาไปทำไม ต่อมามีเงินโอนเข้าบัญชีตน 2 ครั้ง 3,000 บาท และ 5,000 บาท ไม่นานนายบาสก็ได้โทรบอกให้โอนเงินไปให้ ซึ่งตนไม่เคยได้รับเงินส่วนแบ่งจากนายบาสหรือนายพีเลย กระทั่งมีตำรวจมาสอบถามตนถึงบ้าน จึงได้บอกตำรวจไปตามความเป็นจริง
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เปิดเผยอีกว่า ผู้ต้องจะเลือกเฟซบุ๊กที่มียอดคนติดตามจำนวนมาก เฟซบุ๊กที่เปิดสาธารณะ ซึ่งคดีอาชญกรรมทางเทคโนโลยี เฉพาะในพื้นที่อุดรธานีมีกว่า 6 พันคดี จะมีผู้มาแจ้งความคดีออนไลน์เฉลี่ยวันละ 10 คน หลอกให้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือทำบุญให้ รพ. เพราะคนไทยชอบทำบุญ หรือหลอกโอนไปทำบุญช่วยคนพิการ สัตว์บาดเจ็บ
